• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 01/2547

มติที่ 7/2547

เรื่อง แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ……………………………………......….. เรื่อง แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงอาพาธและทรงเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาตามลำดับ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๕ คณะแพทย์ได้ถวายการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง จนมีพระอาการดีขึ้น สามารถเสด็จปฏิบัติศาสนกิจได้เป็นครั้งคราว แต่โดยเหตุที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก มีภารกิจมากทั้งที่เป็นงานของรัฐบาลและงานของทางคณะสงฆ์ ซึ่งจำเป็นต้องนำกราบทูลถวายเพื่อทรงบัญชาการ ทรงวินิจฉัยสั่งการ และทรงลงพระนาม อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อพระสุขภาพ ประกอบกับพระองค์มีพระชนมายุสูงถึง ๙๐ พรรษาแล้ว เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของพระองค์ เห็นควรให้มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ดังนั้น รัฐบาลจึงอาศัยมาตรา ๗๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มอบให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ขอความเห็นจากคณะแพทย์ แล้วนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติว่า ขออนุโมทนาตามข้อเสนอดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่โดยที่สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม อาพาธ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่ประชุมจึงถวาย - ๒ - สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์รองลำดับมา และให้มีสมเด็จพระราชาคณะและรองสมเด็จพระราชาคณะเป็นผู้ช่วยปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย ๑. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ๒. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ๓. สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดมกุฏกษัตริยาราม ๔. สมเด็จพระญาณวโรดม วัดเทพศิรินทราวาส ๕. พระพรหมมุนี วัดบวรนิเวศวิหาร และให้ดำเนินการทันที ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขและเงื่อนเวลา ให้รัฐบาลรับไปจัดทำประกาศ โดยมีเงื่อนไขและเงื่อนเวลาตามที่ได้อภิปรายกันแล้วต่อไป โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม พลตำรวจโท (อุดม เจริญ) เลขาธิการมหาเถรสมาคม

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF00392551_00006a.pdf (71.75 kb)

จำนวนเข้าดู : 1455

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved