มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 15/2564
มติที่ 494/2564
เรื่อง ขอความเห็นชอบแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัด และแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยกุฎิสงฆ์อาพาธในวัด
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า พระเทพเวที รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประธานคณะทำงานโครงการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบการมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ฯ ได้มีลิขิตที่ อว ๘๐๐๐.๒/๑๗๔ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔ แจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการดูแลพระภิกษุ สามเณร และช่วยเหลือประชาชนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ที่มีสถิติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงกำหนดแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัด โดยให้วัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการดำเนินการจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัดร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยคณะทำงานโครงการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบการมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ในระบบสุขภาพเพื่อสังคมสุขภาวะผ่านกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ตามคำสั่งสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายปกครองครอง ของมหาเถรสมาคม ที่ ๓/๒๕๖๒ ได้ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นผู้นำกระบวนการประชุมสานพลังฝ่าวิกฤติหารือแนวทางการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัดผ่านระบบ zoom application meeting จำนวน ๒ ครั้ง เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔ โดยมีผู้แทนหน่วยงานเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย (๑) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (๒) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (๓) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (๔) คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร (๕) โรงพยาบาลสงฆ์ (๖) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (๗) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (๘) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (๙) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ (๑๐) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย โดยมีแนวทางการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชน (Community isolation) ในวัด และแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยกุฎิสงฆ์อาพาธ (Temple isolation) สำหรับพระภิกษุและสามเณรผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด ดังนี้ ๑. แนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชน (Community isolation) ในวัด ๑.๑ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด และสำนักงาน-พระพุทธศาสนาจังหวัด สำรวจวัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมด้านอาคารสถานที่ในการเตรียมจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัดอย่างน้อยจังหวัดหรืออำเภอหรือตำบลละ ๑ แห่ง ทั้งนี้ ให้พิจารณาจากความพร้อมและความจำเป็นของแต่ละพื้นที่เพื่อรองรับการดูแลพระภิกษุ สามเณร และประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) และสนับสนุนการควบคุมโรคและรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของประชาชนในพื้นที่ ๑.๒ วัด ผู้นำชุมชน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสื่อสารสร้างความเข้าใจกับชุมชน เพื่อลดข้อกังวล ให้ความร่วมมือและสนับสนุนในการดำเนินการดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ให้เป็นไปตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติของการเป็นศูนย์พักคอยเพื่อชุมชน (Community isolation) ในวัด อ้างอิงตามกรมอนามัยหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๑.๓ วัด ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สถานพยาบาลในพื้นที่ และภาคีที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑.๓.๑ จัดระบบการดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ตามมาตรฐาน และนวปฏิบัติตามระบบการดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในระบบศูนย์พักคอยเพื่อชุมชน (Community isolation) รวมถึงวางระบบจัดการของชุมชน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ดูแลผู้ป่วย อาหาร เครื่องอุปโภค และการวางระบบดูแลผู้ป่วยที่ต้องแยกกักตัวในบ้าน (ถ้ามี) ที่เชื่อมโยงกับศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัด ๑.๓.๒ พัฒนาศักยภาพแกนนำด้านสุขภาวะในชุมชนและพระคิลานุปัฏฐาก โดยการจัดอบรมการดูแลผู้ป่วยในศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัดเพื่อให้มีความรู้ด้านการบริบาลผู้ป่วยเบื้องต้นเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับระบบการดูแลและประเมินอาการผู้ป่วยของสถานพยาบาลในพื้นที่ผ่านกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพ ระดับท้องถิ่นในพื้นที่ ประสานสนับสนุนทางวิชาการและแนวทางการดำเนินงานโดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภายใต้โครงการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบการมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ในระบบสุขภาพเพื่อสังคมสุขภาวะผ่านกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ๑.๓.๓ สนับสนุนให้ศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัดต้นแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่พื้นที่อื่น ทั้งระบบภายในสำหรับดูแลผู้ป่วยที่ศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัด และระบบภายนอกที่เชื่อมต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย กับหน่วยงานต่าง ๆ ๒. แนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยกุฏิสงฆ์อาพาธ (Temple isolation) สำหรับพระภิกษุและสามเณรผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด ๒.๑ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้วัดเตรียมความพร้อมและจัดกุฏิสงฆ์อาพาธและระบบการดูแลพระภิกษุ สามเณรผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัดตามระบบการแยกกักตัวที่บ้าน (Home isolation) ๒.๒ วัดประสานงานกับสถานพยาบาลในพื้นที่ จัดวางระบบการดูแลพระภิกษุ สามเณรผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด ตามระบบการแยกกักตัวที่บ้าน (Home isolation) ๒.๓ วัด ผู้นำชุมชน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสื่อสาร สร้างความเข้าใจกับชุมชน เพื่อลดข้อกังวล ให้ความร่วมมือและสนับสนุนในการดำเนินการดูแลพระภิกษุ สามเณร ผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด ให้เป็นไปตามระบบการแยกกักตัวที่บ้าน (Home isolation) อ้างอิงตามกรมอนามัยหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒.๔ วัดโดยการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดูแลพระภิกษุ สามเณร ผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด ตามระบบการแยกกักตัวที่บ้าน (Home isolation) และขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณาแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชน (Community isolation) ในวัด และแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยกุฎิสงฆ์อาพาธ (Temple isolation) สำหรับพระภิกษุและสามเณรผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะภาคเจ้าคณะจังหวัดทั้ง ๒ ฝ่าย และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด ทราบแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชน (Community isolation) ในวัด และแนวทางการดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยกุฎิสงฆ์อาพาธ (Temple isolation) สำหรับพระภิกษุและสามเณรผู้อาพาธติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในวัด และให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c_15100864_494 แนวทางจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อชุมชนในวัด.pdf (285.91 kb)
จำนวนเข้าดู : 1601
ปรับปรุงล่าสุด : 30 สิงหาคม พ.ศ. 2564 11:18:00
ข้อมูลเมื่อ : 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564 19:35:16