มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 17/2564
มติที่ 578/2564
เรื่อง การขอยกวัดบ้านบก (ร้าง) จังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมเด็จพระวันรัต ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ได้มีลิขิตที่ ๐๐๑/๑๒๗ ลงวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยกวัดบ้านบก (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านบก หมู่ที่ ๓ ตำบลโพนข่า อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดย พระราชสารโกศล และพระมหานายก ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นายภูมิไท ศศิวรรณพงศ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุปดังนี้ วัดบ้านบก (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านบก หมู่ที่ ๓ ตำบลโพนข่า อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ดินของวัดมีจำนวน ๕ ไร่ ๒ งาน ๑๒.๔ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๗๒๖ เหตุผลและความจำเป็นกรณีมีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ เนื่องจากสมัยก่อนวัดบ้านบก (ร้าง) ไม่มีอาณาเขตที่ชัดเจน จึงทำให้ชาวบ้านมีการรุกล้ำพื้นที่เข้ามาสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งต่อมาหนังสือสำคัญที่ดินที่ตั้งวัดบ้านบก (ร้าง) ได้ระบุไว้ ๕ ไร่ ๒ งาน ๑๒.๔ ตารางวา และเมื่อได้ตั้งเป็นวัดแล้วจะดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายพื้นที่วัดต่อไป อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ กุฏิสงฆ์ ๒ หลัง ศาลาการเปรียญ โรงครัว โรงล้างบาตร หอถังเก็บน้ำ และห้องน้ำ ๒ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๔ รูป มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑,๒๐๐ คน ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดโพนข่า ประมาณ ๔.๕ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดบ้านบก ประมาณ ๗๕๐ เมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดบ้านกุดโง้ง ประมาณ ๒ กิโลเมตร เหตุผลความจำเป็นกรณีระยะห่างจากวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาไม่ถึง ๒ กิโลเมตร เนื่องจากเดิมวัดบ้านบกได้ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้ ต่อมาชาวบ้านได้ย้ายถิ่นฐานออกไปห่างจากพื้นที่เดิมไม่มากนัก ทำให้วัดบ้านบกร้างลง และชาวบ้านได้มีการไปสร้างวัดใหม่ขึ้นในชุมชนที่ย้ายไปและ ใช้ชื่อว่าวัดบ้านบก เหมือนชื่อวัดเดิมนี้ จึงเป็นเหตุให้วัดบ้านบก มีชื่อที่เหมือนกัน ๒ วัด และมีระยะห่างกันน้อยกว่า ๒ กิโลเมตร ต่อมาในสมัยปัจจุบันชาวบ้านมีความประสงค์จะพัฒนาวัดบ้านบก (ร้าง) ให้กลับเป็นวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาอีกครั้ง และจะทำนุบำรุงให้ถาวรสืบไป การขอยกวัดบ้านบก (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง การสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. ๒๕๕๙ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าคณะพระสังฆาธิการตามลำดับจนถึงสมเด็จพระวันรัต ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และสมเด็จพระพุฒาจารย์ ผู้พิจารณากลั่นกรองการขอยก วัดร้างฯ ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้ยกวัดบ้านบก (ร้าง) ตำบลโพนข่า อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา และให้เจ้าอาวาสขวนขวายให้มีพระภิกษุ อยู่จำพรรษามากกว่า ๔ รูป เพื่อจะได้ทำสังฆกรรมบางประเภทตามที่พระวินัยกำหนดจำนวนพระภิกษุไว้ได้ และให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c_17300864_578 ขอยกวัดบก(ร้าง) ศรีสะเกษ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา.pdf (164.13 kb)
จำนวนเข้าดู : 1084
ปรับปรุงล่าสุด : 7 กันยายน พ.ศ. 2564 14:32:07
ข้อมูลเมื่อ : 7 กันยายน พ.ศ. 2564 14:32:07