มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 02/2547
มติที่ 24/2547
เรื่อง รายงานการปฏิบัติศาสนกิจและการสนับสนุนวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย
รายงานการปฏิบัติศาสนกิจและการสนับสนุน วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า พระวิเทศโพธิคุณ พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย ประธานสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุศินาคาร์ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ได้มีลิขิตที่ ทร. ๐๐๑๙๑ ๖๒/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๖ รายงานการปฏิบัติศาสนกิจและการสนับสนุนวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รายละเอียดตามที่แนบถวายมาพร้อมนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสานหารือเป็นการภายในกับ พระวิเทศโพธิคุณ ประธานสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร-ราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลลี ประเทศอินเดีย ได้ประมวลข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า เนื่องจากวัดไทยในต่างประเทศ เดิมได้สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์แก่คนไทยเป็นหลัก ในโอกาสที่มาพำนักและจาริกแสวงบุญ ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่แคบ ๆ ในวงชุมชนคนไทยด้วยกันเอง มิใช่เพื่อคนพื้นเมือง พระสงฆ์ทั้งหลายก็จะถูกขอให้จัดพิธีกรรม งานประเพณี และพยายามรักษาเฉพาะวัฒนธรรมไทย ประกอบกับพระสงฆ์ที่ไปเป็นพระธรรมทูต ไม่เคยได้รับการฝึกหรือปฐมนิเทศเกี่ยวกับงานพระธรรมทูตมาก่อน เป้าหมายของงานพระธรรมทูตไม่ชัดเจนพอ ทำให้งานของวัดไทยในต่างประเทศจึงไม่ค่อยเจริญ ก้าวหน้า และไม่ได้รับการยอมรับจากบุคคลในพื้นที่เท่าที่ควร จึงเห็นควรพิจารณากำหนดแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการบริหารจัดการของวัดและพระสงฆ์ไทยในต่างประเทศดังนี้ ๑. การสนับสนุนงานด้านพระธรรมทูต โดยจัดการอบรมสร้างความเข้าใจ เน้นให้มีความรู้ ความสามารถ และความมั่นใจในการปฏิบัติศาสนกิจตามวัตถุประสงค์ มีจำนวนเพียงพอต่อภารกิจและการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น การอำนวยความสะดวกในการประทับตราหนังสือเดินทางเข้าเมือง (การขอและการต่ออายุวีซ่า และหนังสือเดินทาง) การจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานได้แก่ นิตยภัต ค่าเดินทาง เป็นต้น ๒. การสนับสนุนงานด้านการศึกษาและเผยแผ่ ควรจัดทำแผน/โครงการ เพื่อการดำเนินงานโดยมุ่งหมายให้บุคคลในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษา ปฏิบัติธรรม การจัดกิจกรรมและนิทรรศการทางวิชาการ โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงเรียนเพื่อการศึกษาสงเคราะห์สำหรับพระสงฆ์ สามเณร และเยาวชนในพื้นที่ การจัดทำโครงการปฏิบัติธรรม อย่างต่อเนื่องในวัด การฝึกวิทยากร การจัดทำห้องสมุดเพื่อการค้นคว้าศึกษา และการจัดสัมมนาทางวิชาการร่วมกับคณะสงฆ์และหน่วยงานวิชาการในพื้นที่ ๓. การสนับสนุนด้านการสงเคราะห์ ได้แก่ การสงเคราะห์ด้านอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และอื่น ๆ ที่จำเป็นเหมาะสมต่อประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความผูกพัน และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สร้างความร่วมมือระหว่างวัดกับประชาชน หน่วยงานของรัฐในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศต่อไป ๔. การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ และกระจายข้อมูลข่าวสารให้แพร่หลาย ด้วยการจัดทำแผ่นพับ เอกสาร หนังสือธรรมะ พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษและภาษาฮินดี เพื่อแจกจ่ายและมอบให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมวัดหรือในโอกาสการเข้าร่วมในกิจกรรม การจัดทำข้อมูลเผยแพร่ในเว็บไซต์ และการเชิญผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วมกิจกรรมของวัด ๕. การสนับสนุนด้านการก่อสร้างและบูรณะ เพื่อให้วัดมีอาคารเสนาสนะที่มีความมั่นคง แข็งแรง มีความพร้อม และสามารถในการอำนวยประโยชน์ในการประกอบ พิธีกรรม การเผยแผ่และการปฏิบัติธรรม ซึ่งจะเป็นสิ่งดึงดูดให้บุคคลสนใจในธรรมและเข้ามาร่วม อาจกล่าวได้ว่า อาศัยสิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมนำบุคคลเข้าสู่ศาสนาและการท่องเที่ยว การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการนี้จึงยังมีความจำเป็นและสำคัญต่อการบริหารจัดการและการพัฒนาของวัด โดยมุ่งเน้นในด้านการควบคุมระบบนิเวศ ด้วยการปลูกต้นไม้ จัดระบบระบายน้ำ สร้างความสมดุลของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้วัด มีความร่มรื่นเป็นรมณียสถาน ๖. การสนับสนุนด้านการวางแผนจัดการ/บริหาร สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติจะต้องประสานหารือและเสนอความเห็นต่อฝ่ายการปกครองคณะสงฆ์ ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดนโยบายและจัดทำแผนการบริหารจัดการกิจกรรมและเป้าหมายของวัดไทยให้มีความชัดเจน และมีความต่อเนื่องสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพื่อการเตรียมพร้อมเกี่ยวกับบุคลากร และงบประมาณที่สามารถสนับสนุนให้แก่วัดไทยได้ จากข้อคิดเห็นดังกล่าว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงมีความเห็นในแนวทางดำเนินการและสนับสนุนวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ที่พระวิเทศโพธิคุณ ประธานสงฆ์ของวัดได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ ดังนี้ ๑. เห็นควรให้วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ขึ้นตรงและอยู่ในบังคับบัญชา ปกครองดูแลโดยคณะสงฆ์ไทย เพื่อให้การจัดส่งพระธรรมทูตไปปฏิบัติหน้าที่ การกำหนดนโยบาย แผนงาน/โครงการ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายการดำเนินงานของวัดไทยมีความสอดคล้องและต่อเนื่อง รวมทั้งการติดตามประเมินผลร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ๒. หน่วยงานภาครัฐ คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ และองค์กรทางพระพุทธศาสนา ควรร่วมให้การสนับสนุนส่งเสริมในด้านงบประมาณและการปฏิบัติงาน เช่น การจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษา เผยแผ่ การปฏิบัติธรรม หรือการจัดกิจกรรมที่สำคัญ โดยเป้าหมายหลักจะเน้นให้วัดมีกิจกรรมเพื่อชักจูงให้คนเข้ามาร่วมในการปฏิบัติ ทั้งชาวไทยที่มาจาริกแสวงบุญและประชาชนในท้องถิ่น เพื่อให้การเผยแผ่เป็นไปอย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง โดยกำหนดให้วัดไทยกุสินารา- เฉลิมราชย์ จัดทำแผนงาน/โครงการ และงบประมาณ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพิจารณาและให้การสนับสนุนเป็นรายปี ๓. การจัดตั้งกองทุนหรือมูลนิธิ เพื่อนำปัจจัยที่ได้จากการบริจาคมาใช้ในการบริหารจัดการภายในวัด ตลอดจนเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของพระธรรมทูต นอกเหนือจากที่ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณแผ่นดิน โดยมีหน่วยงานทางราชการเข้าร่วมดูแล คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอินเดีย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ จึงขอประทานเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00392551_00005.pdf (173.23 kb)
จำนวนเข้าดู : 1154
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00