มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 07/2547
มติที่ 107/2547
เรื่อง โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๗/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ .. เรื่อง โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๗/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้จัดปฐมนิเทศโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๔๗ ณ พุทธมณฑล ซึ่งมี สมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นประธาน มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม และผู้สนใจ รวม ๓๐๐ รูป/คน ในการประชุมครั้งนี้ ได้ประกาศเริ่มโครงการพร้อมทั้งได้ตอบคำถามของผู้สนใจได้รับทราบอย่างชัดเจน จึงสรุปว่า โครงการนี้ดำเนินการแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๗ ส่วนงบประมาณในการดำเนินการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว โดยสำนักงบประมาณคงจะอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงได้ประมาณหนึ่งร้อยกว่าล้าน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม นี้ เพราะฉะนั้น ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป หน่วยงานใดได้เข้าสู่กระบวนการนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็จะจ่ายให้ แม้จะเป็นการจ่ายย้อนหลัง ส่วนเงินในการบูรณะวัดจะเน้นในเรื่องของการซ่อมแซมและบูรณปฏิสังขรณ์ ถ้าจะสร้างก็จะเน้นการสร้างศาลาปฏิบัติธรรมหรือสร้างห้องน้ำ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเรื่องนี้หารือกับสำนักงบประมาณ ซึ่งสำนักงบประมาณก็เห็นด้วย ต่อไปก็จะมีโครงการอีกโครงการหนึ่งที่เข้าไปเน้นที่เด็กและเยาวชน โดยตั้งชื่อโครงการนี้ในชั้นต้นว่า ครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม หมายความว่า เป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นในวันหยุด เข้าปฏิบัติธรรมวันศุกร์แล้วออกวันอาทิตย์ เป็นเรื่องของการนำพ่อแม่ลูกเข้ามาปฏิบัติธรรมด้วยกัน ในเรื่องของงบประมาณที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ มีประมาณ ๕๐ ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการต่อไปในภายหลังต่อจากโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานดำเนินไปได้ประมาณ ๑ ถึง ๒ เดือน - ๒ - สำนักงานพระพุทธศาสนาขอกราบนมัสการว่า โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนเกือบ ๔ ล้านคน เข้าสู่กระบวนการนี้ ได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว และทุกจังหวัดให้ความตื่นตัวในเรื่องนี้ สูงมาก แนวโน้มขณะนี้น่าจะมากกว่านี้ ในปีหน้า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะของบดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป จนถึงเดือนกันยายน ปี พ.ศ ๒๕๔๘ ตามระบบของงบประมาณ สรุปว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะขอตั้งงบประมาณเพื่ออบรมตามโครงการ ๘๐๐,๐๐๐ คน ในปีหน้า แต่ปีนี้ ประมาณว่า ๓๐๐,๐๐๐ - ๕๐๐,๐๐๐ คน ส่วนวัดที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้ จะต้องประกอบด้วยลักษณะ ๓ ประการ คือ ๑. ลักษณะสถานที่จะต้องเป็นรมณียสถาน ๒. ลักษณะวิทยากร จะต้องมีวิทยากรที่เป็นวิปัสสนาจารย์ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ และจะเน้นทางด้านปฏิบัติมากกว่าด้านปริยัติ เพื่อให้เกิดปฏิเวธที่ชัดเจนจากการปฏิบัติ ๓. ลักษณะการบริหารงาน จะต้องมีประสิทธิภาพ เพราะจะต้องไปขึ้น ISO ไว้ให้ ขณะนี้ มีวัดและสำนักปฏิบัติธรรมแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการประมาณ ๗๐๐ วัด แต่ใน ๗๐๐ วัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบแล้วพบว่า จะมีวัดและสำนักปฏิบัติธรรมที่สามารถรองรับโครงการนี้ได้ ประมาณ ๑๓๓ วัด และกำลังจะขยายเพิ่มขึ้นตามลำดับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และขออนุโมทนา พลตำรวจโท (อุดม เจริญ) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00392551_00088.pdf (94.5 kb)
จำนวนเข้าดู : 975
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00