ครั้งที่ 07/2547

มติที่ 97/2547

เรื่อง การขอยกวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) จังหวัดอุดรธานี ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา

มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๗/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ …………………………………………………….. เรื่อง การขอยกวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) จังหวัดอุดรธานี ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๗/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดอุดรธานี ได้ส่งรายงานขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จำนวน ๑ วัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้ว ปรากฏรายละเอียด ดังนี้ วัดโนนสวรรค์ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๒ ตำบลนาไหม อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ที่ดินของวัดมีจำนวน ๒ ไร่ ๑๐ ตารางวา ตามเอกสารสิทธิที่ดิน ( น.ส. ๓ ก ) เลขที่ ๑๑๔๔ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. กุฏิสงฆ์ ๔ หลัง ๓. โรงครัว ๔. ห้องน้ำ ๕. เมรุ มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๕ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดบ้านต้อนเหนือ ๗ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดศิริชัยเจริญ ๑.๘ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดศรีบุญเรือง ๗ กิโลเมตร - ๒ - - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดท่าเสี้ยว ๔ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑,๐๐๐ คน ในการนี้ ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต คือ พระครูโสภณศาสนกิจ และพระครูพิศาลวินัยวาท พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นายมนตรี บำรุง นางฐิติรัตน์ ลำดวน และ ว่าที่ ร้อยตรีหญิง สิรภัทร เกตุแก้ว ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุป ดังนี้ วัดโนนสวรรค์ (ร้าง) มีเนื้อที่น้อยกว่า ๖ ไร่ ห่างจากวัดสิริชัยเจริญ ซึ่งตั้งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ประมาณ ๑.๘ กิโลเมตร แต่ก็มีเหตุผลสมควรยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังนี้ ๑. พระครูสถิตธรรมวิสุทธิ์ ได้ทำสัญญายกที่ดิน น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๓๑๐ เนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ ๒ งาน ๗๐ ตารางวา ให้เป็นส่วนหนึ่งของวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) โดยจะโอนให้ภายใน ๖๐ วัน นับแต่มีการประกาศยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๒. กรณีตั้งอยู่ห่างจากวัดอื่นน้อยกว่า ๒ กิโลเมตร แต่เนื่องจากวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) เป็นวัดที่ประชาชนใช้เป็นที่พัก และฌาปนกิจศพ ตามความเชื่อของชาวบ้านที่จะไม่ นำศพเข้าไปในหมู่บ้าน ดังนั้น แม้จะมีวัดสิริชัยตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ห่างกันประมาณ ๑.๘ กิโลเมตร แต่ชาวบ้านก็จำเป็นต้องใช้สถานที่ของวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศล ๓. ประกอบกับจากที่ได้ตรวจสอบสภาพวัด จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงวัดร้าง ไม่มีเสนาสนะใด ๆ ในช่วงระยะเวลาประมาณ ๒ ปี วัดได้มีเสนาสนะมั่นคงเหมาะสม เพียงพอ และมีการดูแลพัฒนาให้อยู่ในสภาพดีมาก ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงกำลังศรัทธาของชาวบ้าน และศักยภาพในการทำนุบำรุงวัด และวัดได้เอื้อประโยชน์เป็นศูนย์กลางชุมชนได้เป็นอย่างดี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีความเห็นว่า ควรสนับสนุนให้ยก วัดโนนสวรรค์ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ - ๓ - การขอยกวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับแล้ว ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยกวัดโนนสวรรค์ (ร้าง) ตำบลนาไหม อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พลตำรวจโท (อุดม เจริญ) เลขาธิการมหาเถรสมาคม

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF00392551_00077.pdf (98.47 kb)

จำนวนเข้าดู : 1223

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00