• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 11/2547

มติที่ 181/2547

เรื่อง โครงการปฏิบัติธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

โครงการปฏิบัติธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นำเรื่องโครงการปฏิบัติธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม ในการประชุมครั้งที่ ๒๗/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๖ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและอนุโมทนา พร้อมทั้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรายงานความคืบหน้าของโครงการนี้ทุกระยะ นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอกราบนมัสการรายงานผลคืบหน้า โดยสรุปจนถึงปัจจุบันว่า โครงการปฏิบัติมี ๒ โครงการ คือ ๑. โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๗ ซึ่งผ่านมาได้ ๑ เดือน ที่อนุมัติให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทมีสิทธิสมัครใจลาไปปฏิบัติธรรมได้ ๓ - ๕ วัน ทำการ โดยทางราชการจะไม่ถือเป็นวันลา ปีละ ๑ ครั้ง และสำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติได้ปรับโอนงบประมาณในส่วนที่รับผิดชอบอยู่ โดยได้รับอนุมัติจากสำนัก-งบประมาณ ซึ่งพร้อมที่จะดำเนินการได้ จำนวน ๑๑๑,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (หนึ่งร้อยสิบเอ็ด-ล้านบาทถ้วน) เพราะฉะนั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทสามารถลาไปปฏิบัติธรรมด้วยความสมัครใจ เป็นการฝึกพัฒนาจิตใจของตนเองโดยใช้หลักการของพุทธธรรมในหลักมหาสติปัฏฐานสูตร โดยดำเนินการตามหลักวิธีของสมถ-กรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งผู้เข้าปฏิบัติสามารถเลือกได้ ๒ ระบบ คือ ๔ คืน ๕ วัน หรือ ๗ คืน ๘ วัน ตามวัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ขึ้นบัญชีวัดที่เข้าร่วมโครงการประมาณ ๔๐๐ วัด คาดว่าในปีแรกจะมีวัดที่เข้าร่วมโครงการประมาณ ๑,๐๐๐ วัด โดยผู้ปฏิบัติธรรมไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะจ่ายให้กับวัดหรือสำนักปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และจะดูแลในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การรักษาพยาบาล เพื่อให้ผู้เข้าปฏิบัติธรรมไม่ต้องกังวลในเรื่องดังกล่าว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะจ่ายให้กับวัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรมจากงบประมาณที่ได้รับมาวันละ ๘๐.- บาท ต่อคน ยกตัวอย่าง เช่น ผู้เข้าปฏิบัติธรรม ๕ วัน จะต้องจ่าย ๔๐๐.- บาท ให้กับวัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรม ถ้าเป็น ๘ วัน จะต้องจ่าย ๖๔๐.- บาท ในระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติ ปรากฏว่า ข้าราชการได้ทราบโครงการปฏิบัติธรรมนี้มีจำนวนไม่มาก ขณะนี้มีผู้เข้ามาอบรมประมาณ ๓,๐๐๐ คน ใน ๑๒ จังหวัด คาดว่าในระยะต่อไปคงจะเพิ่มมากขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว เพราะว่า สำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับอัตรากำลังพลที่เป็นสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดเพิ่มมาส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ก็ได้ให้ความช่วยเหลือติดตามสั่งการให้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งได้รับความร่วมมือด้วยดีในการถ่ายโอนข้าราชการมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงาน ก.พ. เพราะฉะนั้น เจ้าหน้าที่กำลังพลที่ปรากฏทั่วประเทศเป็นเครือข่ายนั้น ก็จะได้ประสานประชาสัมพันธ์ไปยังข้าราชการในแต่ละจังหวัดให้มาปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางในโอกาสต่อไป ๒. โครงการครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ประสานกับสำนักงบประมาณ ขอปรับงบประมาณของสำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประมาณ ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ .- บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) เข้าสู่การดำเนินงานในโครงการนี้ เพื่อให้ครอบครัวของพุทธบริษัททั่วประเทศเข้าสู่กระบวนการของการปฏิบัติธรรมด้วยกันในวันสุดสัปดาห์ โดยเข้าปฏิบัติธรรมเวลาเย็นวันศุกร์และออกเวลาเย็นวันอาทิตย์ ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารของวัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ได้ขึ้นบัญชีไว้นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะเป็นผู้รับจ่ายให้ทั้งหมดในอัตราเดียวกับที่กล่าวแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหวังว่า ด้วยอำนาจแห่งพระสัทธรรมในการนำพุทธธรรมตามหลักของไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา มาสู่การศึกษาและปฏิบัติ จะทำให้สมาชิกในครอบครัวประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขและยั่งยืนตลอดไป จึงขอประทานกราบนมัสการมาเพื่อโปรดทราบในความคืบหน้าทั้ง ๒ โครงการ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบถวายมาพร้อมนี้ จึงขอประทานเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และขออนุโมทนาต่อรัฐบาลและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนดังกล่าว

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF00392551_00162.pdf (131.99 kb)

จำนวนเข้าดู : 1279

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved