มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 17/2547
มติที่ 295/2547
เรื่อง สรุปรายงานการปฏิบัติราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ............................................................... เรื่อง สรุปรายงานการปฏิบัติราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๗/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะได้เดินทางไปราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประสานข้อมูลรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะสงฆ์ในพื้นที่ รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ในนามผู้แทนมหาเถรสมาคม เพื่อตรวจเยี่ยมวัดที่ถูกลอบวางระเบิดในจังหวัดนราธิวาส และติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตามแผนพัฒนากิจการคณะสงฆ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ ๒๔ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๗ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ร่วมประชุมเพื่อแจ้งนโยบายและกรอบภารกิจหน้าที่สำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติในการสนองงานต่อคณะสงฆ์ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ โดยการจัดทำแผนพัฒนากิจการคณะสงฆ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแผนระยะเร่งด่วน (๔ เดือน) และแผนระยะยาว (๕ ปี) ณ วัดนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒. ให้สัมภาษณ์รายการ วิทยุชุมชน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่ง-ประเทศไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อชี้แจงและอธิบายการส่งเสริมการนำหลักธรรมของพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยการจัดทำโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติและโครงการครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม เพื่อแนะนำและชักจูงให้พุทธศาสนิกชนได้ เข้าใจหลักแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาด้วยการเข้าร่วมโครงการ - ๒ - ๓. ตรวจเยี่ยมและสอบถามข้อมูลเจ้าอาวาสวัดที่ถูกลอบวางระเบิดใน จังหวัดนราธิวาส จำนวน ๓ วัด ได้แก่ ๑. วัดธารากร อำเภอตากใบ (อุโบสถเสียหาย) ๒. วัดสังฆสิทธาราม อำเภอระแงะ (อุโบสถเสียหาย) ๓. วัดราษฎร์สโมสร อำเภอรือเสาะ (ฐานซุ้มประตูทางเข้าเสียหาย) ผลจากการไปราชการครั้งนี้ ได้รับข้อมูล ปัญหา และข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๑. พระภิกษุสามเณรที่ออกบิณฑบาต จะมีทหารหรือตำรวจถวายความคุ้มครองสายละ ๒ คน ๒. การพบปะหรือร่วมกิจกรรมระหว่างศาสนิกชนของแต่ละศาสนาจะไม่มีเช่นปกติ ๓. ปัญหาการเรียกร้องขอให้มีสถานที่ละหมาดในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในวัด ๔. กรณีที่มีนักเรียนนับถือพระพุทธศาสนาน้อยกว่านักเรียนที่นับถือศาสนาอื่นในโรงเรียน ๕. ปัญหาที่ยังจะต้องรับนักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธมาเรียนวิชาพระพุทธ-ศาสนาในวัด แทนที่พระซึ่งเป็นครูผู้สอนจะไปทำการสอนในโรงเรียน ซึ่งจะมีปัญหาในการนั่งรถจักรยานยนต์เดินทางไปสอน ข้อเสนอแนะ ๑. ควรจัดให้มีห้องละหมาดในอาคารเรียนของโรงเรียน ไม่ควรสร้างแยกออกมาต่างหาก ๒. ควรย้ายนักเรียนที่นับถือพระพุทธศาสนาไปเรียนร่วมกัน ๓. วัดยังไม่สามารถจัดให้พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตได้ เจ้าอาวาสควรแจ้งเจ้าคณะจังหวัด เพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุน ทุนวัดช่วยวัด ตามมติมหาเถร-สมาคม จำนวน ๑๐๐ บาท ต่อรูปต่อวัน - ๓ - ๔. กรณีการสร้างพื้นฐานทางพระพุทธศาสนาในพื้นที่ให้มีความมั่นคง ได้มีข้อคิดเห็นให้นำเยาวชนที่มาจากครอบครัวยากจน หรือมีความประสงค์จะขอรับการสนับสนุนในการศึกษาเล่าเรียนจากภาคอื่น ๆ มาบวชเรียน สร้างความเป็นธรรมทายาทรุ่นใหม่ ๕. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานติดต่อพระสงฆ์ในพื้นที่หรือจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง ที่มีความรู้ความสามารถไปสอนในสำนักเรียนในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีความมั่นคงแล้วจะเกิดการขยายตัวต่อเนื่องเอง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำรายงานการไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ พลตำรวจโท (อุดม เจริญ) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00392551_00275.pdf (104.59 kb)
จำนวนเข้าดู : 998
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00