มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 20/2547
มติที่ 347/2547
เรื่อง การขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๐/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ............................................................... เรื่อง การขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๐/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดต่าง ๆ ได้ส่งรายงานการขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จำนวน ๕ วัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้ว ปรากฏรายละเอียด ดังนี้ ๑. วัดพระธาตุดอยกิ่วขมิ้น (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านไม้แงะ หมู่ที่ ๘ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีที่ดินที่ตั้งวัด จำนวน ๑๐ ไร่ ๒ งาน ๑๗ ตารางวา ตามเอกสารสิทธิที่ดิน โฉนดที่ดินเลขที่ ๔๘๗๒ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. กุฏิสงฆ์ ๘ หลัง ๓. ศาลาพักร้อน ๔. หอระฆัง ๕. โรงครัว ๖. ห้องน้ำ ๘ หลัง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๗ รูป /ระยะห่างจากวัด ... - ๒ - ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดกลางทุ่ง ๕ กิโลเมตร - ทิศใต้ ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดบ้านใหม่ ๓ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดจองคำ ๔ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๓๐๐ คน ๒. วัดตระพังละมุด (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเสาเถียรใต้ หมู่ที่ ๑๑ ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย มีที่ดินที่ตั้งวัด จำนวน ๒๕ ไร่ ๓ งาน ๘๕ ตารางวา ตามเอกสารสิทธิที่ดิน โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๐๒๕๐ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. อุโบสถ (กำลังก่อสร้าง) ๓. เมรุ ๔. ศาลาธรรมสังเวช ๕. กุฏิสงฆ์ ๒ หลัง ๖. ห้องน้ำ ๑ หลัง จำนวน ๓ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๔ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดหนองบัว ๖ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดป่ารัง ๓ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๕๐๐ คน - ๓ - ๓. วัดท่าตำหนัก (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านโพธิ์ประทับช้าง หมู่ที่ ๙ ตำบลโพธิ์-ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร มีที่ดินที่ตั้งวัด จำนวน ๓๒ ไร่ ๑ งาน ๕๓ ตารางวา ตามเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.๓ ก เลขที่ ๘๔๓ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. หอสวดมนต์ ๒. ศาลาบำเพ็ญกุศลหกเหลี่ยม ๓. กุฏิสงฆ์ ๖ หลัง ๔. ห้องเก็บครุภัณฑ์ ๕. ห้องน้ำ ๔ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๖ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดบึงโพธิ์ ๗ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดโพธิ์ประทับช้าง ๒ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดท่าบัวทอง ๕ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดอู่ตะเภา ๑๐ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๗๐๐ คน ๔. วัดสันต๊ะผาบ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านสันต๊ะผาบ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลป่าไหน่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ มีที่ดินที่ตั้งวัด จำนวน ๒ ไร่ ๑๐ ตารางวา ตามเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.๓ ก เลขที่ ๒๓๔ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. วิหาร ๒. ศาลาบำเพ็ญกุศล ๒ หลัง ๓. ศาลาอเนกประสงค์ ๔. อุโบสถ (กำลังก่อสร้าง) - ๔ - ๕. กุฏิสงฆ์ ๖. ห้องน้ำ มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๔ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดม่วงถ้อย ๑.๕ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดแม่กอย ๓.๕ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดสันยาว ๒.๓ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดขามสุ่ม ๓ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๓๐๐ คน ในกรณีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ เหตุผลและความจำเป็นที่ขอยกวัดสันต๊ะผาบ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา คือ ประชาชนร่วมใจกันบริจาคเงิน เพื่อซื้อที่ดินที่อยู่ติดกับวัดด้านทิศตะวันออกอีก จำนวน ๔ ไร่ เมื่อรวมกับที่ตั้งวัดแล้ว จะมีเนื้อที่ครบ ๖ ไร่ โดยจะโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่วัดสันต๊ะผาบ (ร้าง) เมื่อได้รับการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว ๕. วัดม่วงคำ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านม่วงคำ หมู่ที่ ๙ ตำบลป่าไหน่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ มีที่ดินที่ตั้งวัด จำนวน ๑ ไร่ ๓ งาน ๖๐ ตารางวา ตามเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.๓ ก เลขที่ ๕๙ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. วิหาร ๒. ศาลาบำเพ็ญกุศล ๓. กุฏิสงฆ์ ๔. ห้องน้ำ ๑ หลัง ๔ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๖ รูป - ๕ - ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดป่าไหน่ ๒.๔ กิโลเมตร - ทิศใต้ ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดสันยาว ๑.๘ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดบ้านโละ ๒.๕ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑๕๐ คน ในกรณีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ เหตุผลและความจำเป็นที่ขอยกวัดม่วงคำ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา คือ ๑. ประชาชนบ้านม่วงคำ จะซื้อที่ดินทางทิศเหนือเพิ่มอีก ๒ ไร่เศษ โดยจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้วัดเมื่อได้รับการยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว เมื่อรวมกับที่ดินที่ตั้งวัดจะมีเนื้อที่ประมาณ ๔ ไร่ ๒.ทางด้านทิศตะวันตก ไม่สามารถขยายได้ เนื่องจากเป็นที่สาธารณประโยชน์ แต่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อีกประมาณ ๒ งาน ในการนี้ พระศรีสมโพธิ ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นางสาวอุษา จำนงค์ไทย นางสาวสมบูรณ์ พุ่มงามขำ และนายประยุทธ์ หมีพลัด ได้ไปตรวจสอบแล้วมีความเห็นสรุป ดังนี้ ๑. วัดร้างทั้ง ๕ วัด มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด ๒. มีเสนาสนะมั่นคงถาวร ๓. มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาไม่น้อยกว่า ๔ รูป ๔. ประชาชนในละแวกใกล้เคียงมีจำนวนมากพอที่จะให้การสนับสนุนและทำนุ-บำรุงให้วัดเจริญต่อไปได้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นสมควรให้ยกวัดร้าง ทั้ง ๕ วัด ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ - ๖ - การขอยกวัดร้าง จำนวน ๕ วัด ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติ-คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับ จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนเหนือแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคม ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยกวัดร้างทั้ง ๕ วัด ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาตามลำดับ คือ ๑. วัดพระธาตุดอยกิ่วขมิ้น (ร้าง) ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ๒. วัดตระพังละมุด (ร้าง) ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ๓. วัดท่าตำหนัก (ร้าง) ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ๔. วัดสันต๊ะผาบ (ร้าง) ตำบลป่าไหน่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ๕. วัดม่วงคำ (ร้าง) ตำบลป่าไหน่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ อนึ่ง วัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาเพียง ๔ รูป ให้เจ้าอาวาสขวนขวายให้มีพระภิกษุอยู่จำพรรษามากกว่า ๔ รูป เพื่อจะได้ทำสังฆกรรมบางประเภทตามที่พระวินัยกำหนดจำนวนพระภิกษุไว้ได้ พลตำรวจโท (อุดม เจริญ) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00492551_00033.pdf (187.74 kb)
จำนวนเข้าดู : 1256
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00