ครั้งที่ 21/2547

มติที่ 364/2547

เรื่อง ขอสนับสนุนการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๑/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ .............................................................. เรื่อง ขอสนับสนุนการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๑/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า เจ้าคณะพระสังฆาธิการใน ๑๔ จังหวัด ภาคใต้ ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ ๒๑ - ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ณ วัดมุจลินทวาปีวิหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อพิจารณากิจการคณะสงฆ์ ส่งเสริมความสามัคคี สร้างสรรค์ สนับสนุนกิจการต่าง ๆ และเรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช คณะสงฆ์ ๑๔ จังหวัดภาคใต้ ได้พิจารณาเห็นว่า รัฐบาลได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย และจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบ ๆ กันมา ในเมื่อสมเด็จพระสังฆราชทรงประชวร ไม่สามารถปฏิบัติพระภารกิจได้ เพื่อมิให้การคณะสงฆ์ต้องหยุดชะงักลง และได้ร่วมกับ รัฐบาล ได้ร่วมกันแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองเหมือนอย่างที่ผ่านมา คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชได้ประสานกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนทำให้คณะสงฆ์และประชาชนอบอุ่นใจที่มหาเถรสมาคมและรัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือคณะสงฆ์และประชาชนอย่างเร่งด่วน จึงขอประกาศแถลงการณ์เพื่อเรียกร้อง ๒ ประการ คือ ๑. การประกาศคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นั้น ชอบแล้ว แต่เมื่อมีผู้แสดงอาการจาบจ้วง ไม่เคารพต่อคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ควรที่รัฐบาลจะได้ถวายการอารักขาองค์สมเด็จพระสังฆราช และคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จ-พระสังฆราช ตลอดถึงมหาเถรสมาคมทุกรูป ให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้โดยคล่องตัว - ๒ - ๒. คณะสงฆ์ ๑๔ จังหวัดภาคใต้ แม้จะประสบภาวะวิกฤติบางเรื่อง บางประการ ก็ยังสามารถช่วยเหลือกันแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลและมหาเถรสมาคม แต่การที่ส่วนกลาง คือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ได้แสดงความไม่เคารพต่อคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และมหาเถร-สมาคม ควรที่รัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ เพื่อรักษาและคุ้มครองพระพุทธศาสนาและภิกษุสามเณร ตามพันธกรณีที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๓ ว่า “รัฐต้องให้ความอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกของทุกศาสนา รวมทั้งสนับสนุนการนำหลักธรรมของศาสนามาใช้เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิต” หากรัฐบาลเฉยเมย คณะสงฆ์และพุทธบริษัทใน ๑๔ จังหวัดภาคใต้จะแก้ไขสถานการณ์ด้วยตนเองอย่างมีเกียรติและสมศักดิ์ศรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นสมควรนำเสนอมหาเถรสมาคม เพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ พลตำรวจโท (อุดม เจริญ) เลขาธิการมหาเถรสมาคม

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF00492551_00049.pdf (81.97 kb)

จำนวนเข้าดู : 1014

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00