มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 16/2568
มติที่ 495/2568
เรื่อง แนวปฏิบัติการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด และแนวทางการจัดทำบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่าย รายงานเงินคงเหลือของวัด หรือระบบบัญชีมาตรฐานของวัด
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๖/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ เลขาธิการมหาเถรสมาคม เสนอว่า ในคราวการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๓/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ได้มีมติที่ ๓๙๙/๒๕๖๘ เรื่อง ข้อปรารภการบริหารศาสนสมบัติตามพระธรรมวินัยและพระราชบัญญัติ-คณะสงฆ์ มหาเถรสมาคม ได้มีมติโดยสรุป มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอหลักการทั่วไปสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัดโดยด่วน พร้อมทั้งแจ้งข้อปรารภเป็นการกำชับมหาเถรสมาคม ให้เร่งรัด และมอบหมายการดำเนินการในพันธกิจด้านศาสนสมบัติ ร่วมกันพิจารณาดำเนินการ กำหนดกฎเกณฑ์และกระบวนการบริหารจัดการศาสนสมบัติวัด เพื่อเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดเป็นกฎเกณฑ์ สำหรับบังคับใช้แก่คณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยกองส่งเสริมการจัดการศาสนสมบัติของวัด ได้พิจารณาแล้วเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎกระทรวง การดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบกับมติมหาเถรสมาคม มติที่ ๓๙๙/๒๕๖๘ เรื่อง ข้อปรารภการบริหารศาสนสมบัติตามพระธรรมวินัย และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และมติที่ ๔๐๒/๒๕๖๘ เรื่อง นโยบายคณะสงฆ์ในการบริหารศาสนสมบัติ ตามพระธรรมวินัยและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ขอนมัสการมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ดังนี้ ๑. กำหนดแนวปฏิบัติในการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคาร และการเก็บรักษาบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด ดังนี้ การเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด ๑.๑ การเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดที่วัดตั้งอยู่เท่านั้น ๑.๒ ระบุชื่อบัญชีเงินฝากธนาคารว่า เงินของวัด.......... หรือ วัด........ เท่านั้น ห้ามมีคำว่าโดย........ (บุคคลใดบุคคลหนึ่ง) ต่อท้ายชื่อวัด ๑.๓ ระบุชื่อผู้มีอำนาจลงนามถอนเงิน หรือสั่งจ่ายเช็ค จากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดอย่างน้อยสาม รูป/คน ประกอบด้วย ๑. เจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมายสงฆ์ ๒. ไวยาวัจกรที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าอาวาส และ ๓. บุคคลที่เจ้าอาวาสเห็นสมควร ๑.๔ เงื่อนไขการถอนเงิน หรือสั่งจ่ายเช็ค ให้กำหนดผู้มีอำนาจลงนามจำนวนสองในสามรูป/คน โดยมีเจ้าอาวาสลงนามถอนเงินหรือสั่งจ่ายเช็คด้วยทุกครั้ง ๑.๕ การถอนเงินฝากธนาคารของวัด ให้ใช้การถอนเงินโดยใช้ใบถอนเงินของธนาคาร และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารเท่านั้น การเก็บรักษาบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด ให้เก็บรักษาไว้ ณ ที่วัด ในที่ปลอดภัยไม่ให้สูญหาย ๒. การจัดทำบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่ายของวัด และรายงานเงินคงเหลือของวัดหรือ ระบบบัญชีมาตรฐานของวัด ดังนี้ ๒.๑ ให้วัดทุกวัดจัดทำบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่ายของวัดและบันทึกบัญชีทุกครั้งที่มีรายการรับและรายการจ่าย พร้อมให้สรุปเป็นรายเดือน และรวบรวมบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่ายของวัดเป็นรายเดือน จำนวน ๑๒ เดือน (เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม) ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ ๒๐ มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสาร ไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ ในส่วนเอกสารหลักฐานประกอบรายรับ - รายจ่าย ให้เก็บไว้ที่วัด เพื่อรับการตรวจสอบ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ๒.๒ ให้วัดจัดทำรายงานเงินคงเหลือของวัด โดยจัดทำ ณ วันสุดท้ายของเดือน เป็นประจำทุกเดือน โดยให้รายงานทั้งเงินสด เช็ค และเงินฝากธนาคารที่เป็นบัญชีของวัดทุกบัญชี ที่ชื่อบัญชีเป็นชื่อของวัด และรวบรวมส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ ๒๐ มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ ๒.๓ ให้วัดทุกวัดพิจารณาใช้ระบบบัญชีมาตรฐานสำหรับวัดของสำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการบันทึกบัญชีของวัด ซึ่งหากวัดใดได้นำระบบบัญชีมาตรฐานสำหรับวัดใช้ในการบันทึกบัญชีของวัดแล้ว ไม่ต้องดำเนินการจัดทำข้อ ๒.๑ และข้อ ๒.๒ อีก แต่วัดต้องรายงานบัญชีมาตรฐานสำหรับวัดส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ ๒๐ มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ ทั้งนี้ ในการจัดทำระบบบัญชีมาตรฐานสำหรับวัด ให้วัดพิจารณาได้ตามความเหมาะสมของวัด ๒.๔ กรณีวัดที่มีรายชื่ออยู่ในโครงการจัดทำบัญชีมาตรฐาน (สำหรับวัดนำร่อง) ให้จัดทำบัญชีระหว่างเดือนตุลาคม - มิถุนายน ในปีถัดไป และนำส่งรายงานให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติ ภายในเดือนสิงหาคม ๓. ให้วัดทุกวัดพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) มาใช้สำหรับรองรับข้อมูลการรับบริจาคตามความเหมาะสมของวัด ๔. ให้เจ้าอาวาสปฏิบัติตามมติฉบับนี้ และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ กำกับ กำชับ ติดตาม และดูแลเจ้าอาวาสในเขตปกครอง ให้บริหารศาสนสมบัติของวัด ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย พระราชบัญญัติ กฎหมาย กฎกระทรวง ระเบียบ มติ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามย่อมมีความผิดฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการและมีโทษได้ ๕. มอบหมายสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ๕.๑ กำหนดแบบบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่ายของวัด และรายงานเงินคงเหลือของวัด ตามมติฉบับนี้ ๕.๒ ให้คำแนะนำแก่วัดในการจัดทำบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่ายของวัด และรายงาน เงินคงเหลือของวัด ๕.๓ ให้มีหน้าที่ในการกำกับ ดูแล หรืออาจจะประสานงานกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตรวจสอบภายในระดับจังหวัด สำนักงานตำรวจ-แห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น เพื่อทำการตรวจสอบบัญชีรายรับบัญชีรายจ่ายของวัด และรายงานเงินคงเหลือของวัด พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบได้ตามความเหมาะสม และให้รายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ ๖. ให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด และแนวทางการจัดทำบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่าย รายงานเงินคงเหลือ ของวัด หรือระบบบัญชีมาตรฐานของวัด ตามที่เสนอ และให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : 16200668_495 แนวปฏิบัติการเบิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดฯ_0001.pdf (1.12 mb)
จำนวนเข้าดู : 431
ปรับปรุงล่าสุด : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 08:47:37
ข้อมูลเมื่อ : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 08:47:37