• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 17/2568

มติที่ 558/2568

เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ขึ้นเป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์

ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ เลขาธิการมหาเถรสมาคม เสนอว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาโปรดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งมหาเถรสมาคมเพื่อทราบ ว่า สำนักพระราชวัง ได้มีหนังสือ ที่ พว. ๐๒๐๒.๒/๑๐๖๐๙ ลงวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๘ แจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ขึ้นเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์” ดังนี้ ๑. พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกนานถึง ๑๖ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๔ ในรัชกาลที่ ๖ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๐ ในรัชกาลที่ ๘ ทรงพระคุณูปการแก่ พระบวรพุทธศาสนาและประเทศชาติอย่างยิ่ง เสด็จสถิตเป็นที่พึ่งแห่งพระบรมราชวงศ์และพุทธศาสนิกชน และทรงเป็นหลักของพุทธศาสนจักรที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ๒. พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระองค์ที่ ๒ เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า-เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) และในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗) เมื่อครั้งทรงผนวช เป็นที่ทรงเคารพบูชายิ่งของพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ และทรงเป็นพระอุปัชฌายะของสมเด็จ-พระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) พระราชอุปัธยาจารย์ในรัชกาลปัจจุบัน ๓. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสถาปนาเป็น “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” ทรงกรมที่ “กรมหมื่น” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ ครั้นถึงรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเลื่อนเป็น “กรมหลวง” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ ๔. ปรากฏต้นฉบับเอกสารลายพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ (พระราชบิดาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗) อนุสนธิพระราชประสงค์ ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีพระบรมราชวินิจฉัย ในการเฉลิมพระอิสริยยศ เป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ ที่ กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชนิยมให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ ที่ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก มีคำนำพระนามว่า “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า” ทุกพระองค์ ๕. ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยเสด็จสถิตเป็นที่พึ่งแห่งพระบรมราชวงศ์และพุทธศาสนิกชน นำพาราชอาณาจักรและพุทธจักรให้วัฒนาสถาพร มาได้โดยสวัสดี ตราบกระทั่งสิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐ รัชกาลที่ ๘ ทั้งนี้ ลายพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ที่ทรงรจนาพระนามกรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ในสมัยรัชกาลที่ ๗ ได้เก็บรักษาไว้ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นเวลานานกว่า ๙๐ ปี ๖. มหาเถรสมาคม ในการประชุมเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ได้พิจารณาว่า บัดนี้ จะบรรจบอภิลักขิตสมัย ๑๐๐ ปี นับแต่การพระราชทานเลื่อนเป็น “กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์” และมีมติให้จัดงานเฉลิมพระเกียรติ ด้วยทรงพระคุณูปการทั้งด้านการปกครองคณะสงฆ์ การศึกษา และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงสมควรขอพระราชทานถวายสำเนาเอกสารลายพระหัตถ์เพื่อขอรับพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในโอกาสอันสมควร ๗. วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ จะบรรจบอภิลักขิตสมัย ๑๐๐ ปี นับแต่วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ ๑๐๐ ปี วันเสด็จขึ้นทรงราชย์แห่งพระบาทสมเด็จ-พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในฐานะวัดประจำรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๗ ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นอย่างยิ่งมาโดยตลอดรัชสมัย กับทั้งเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารในรัชกาลที่ ๗ จึงเห็นสมควรจัดพิธีบำเพ็ญพระกุศล อุทิศถวายทั้งสองพระองค์ การนี้ นับเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้สืบสานพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่ ๗ โดยที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงสถิตในที่พระราชกรรมวาจาจารย์ ในรัชกาลที่ ๖ และในรัชกาลที่ ๗ ดังที่ปรากฏในสร้อยพระนามตอนหนึ่งว่า “ไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์” ดังที่กล่าวมาแล้ว และประจวบด้วยอภิลักขิตสมัย ๑๐๐ ปี แห่งการพระราชทานเลื่อนกรมเป็น “กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์” และได้นำความกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชทราบฝ่าพระบาทแล้ว ๘. บัดนี้ ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีหนังสือ ที่ พว. ๐๒๐๒.๒/๑๐๖๐๙ ลงวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๘ กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระราชกรรมวาจาจารย์ ในรัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ และสกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ ๑๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์” และสร้อยพระนามตามที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ทรงรจนาไว้ เนื่องในโอกาส ๑๐๐ ปี นับแต่วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ ๑๐๐ ปี วันเสด็จขึ้นทรงราชย์แห่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนี้ “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ มหาเจษฎานุพงศสิริวัฒน ภัทรผลพูลสวัสดิขัตติยพรหมจารี สังฆราชาธิบดีศรีสมณุตมปริณายก ตรีปิฎกกลาโกศล มงคลธรรมเจดีย์คัมภีรญาณยุตสุตสุนทร ไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์ ศุภศีลศานติ์มหาอนาคาริยรัตน พุทธศาสนบริษัทนิปัตยคารวสถาน มโหฬารเมตตาขันตยาไศรย ศรีรัตนตรัยสรณคุณารักษ์ อุกฤษฏศักดิสกลสงฆปาโมกขคณิศราธิบดี มหาสถาวีรวโรดมบรมบพิตร” ๙. ทั้งนี้ จะมีพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏและประกาศพระบรมราชโองการสถาปนา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามจัดถวาย ในวันอังคารที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ (อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์) และทรงยกเบญจปฎลเศวตฉัตร ถวายกางกั้นพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า ซึ่งประดิษฐาน ณ ซุ้มคูหาพระเจดีย์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ภายหลังจากการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายรัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : 17300668_558 ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิ ฯ_0001.pdf (1.2 mb)

จำนวนเข้าดู : 12

ปรับปรุงล่าสุด : 8 กันยายน พ.ศ. 2568 09:47:06

ข้อมูลเมื่อ : 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 09:18:53

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved