มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 17/2546
มติที่ 298/2546
เรื่อง การขอยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๔๖ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง การขอยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีหนังสือที่ ชม ๐๐๓๒/๑๙๘๙ ลงวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๔๖ ส่งรายงานขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จำนวน ๑ วัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้ว ปรากฏรายละเอียด ดังนี้ วัดเจดีย์กุด (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านกลาง หมู่ที่ ๓ ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ดินของวัดมีจำนวน ๑ ไร่ ๒ งาน ๕๔ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๙๒๖๓ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. วิหาร ๓. กุฏิสงฆ์ ๙ หลัง ๔. หอฉัน ๕. ห้องน้ำ ๖. โรงครัว มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๕ รูป สามเณร ๑ รูป - ๒ - ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดกุมภประดิษฐ์ ประมาณ ๔ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดดวงดี ประมาณ ๒ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดร่มไทรคำ ประมาณ ๔ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดรัตนาราม ประมาณ ๓ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑,๕๐๐ คน เหตุผลกรณีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ ๑. วัดเจดีย์กุด (ร้าง) เป็นวัดร้างที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา บนที่วัดร้างสามารถออกโฉนดได้เพียง ๑ ไร่ ๒ งาน ๑ ตารางวา ซึ่งเป็นบริเวณที่เหลืออยู่แสดงซากเจดีย์และวิหาร ๒. ทางวัดได้รับการบริจาคที่ดินที่ติดอยู่กับที่ตั้งวัด ซึ่งรวมกันแล้วมีเนื้อที่ครบ ๖ ไร่ โดยจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับวัดต่อเมื่อได้มีการอนุญาตให้ยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว ๓. หากไม่ดำเนินการบูรณะและยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา สภาพ-ที่ดินและวัดเดิมจะถูกทำลาย ๔. เมื่อยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว จะอำนวยประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปในการประกอบศาสนพิธีและเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชน ในการนี้ ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต คือ พระบวรสุทธิวงศ์ พระครู-พิศาลวินัยวาท และพระมหาไฉน จิตฺตสุทฺโธ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติ คือ นายมนตรี บำรุง นางสาวอุษา จำนงค์ไทย และว่าที่ร้อยตรีหญิง สิรภัทร เกตุแก้ว ได้ไปตรวจสอบแล้วมีความเห็นสรุปได้ดังนี้ ๑. วัดเจดีย์กุด (ร้าง) มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด ตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๙๒๖๓ มีเนื้อที่ประมาณ ๑ ไร่ ๒ งาน ๕๔ ตารางวา ๒. แม้ว่าวัดเจดีย์กุด (ร้าง) จะมีเนื้อที่ประมาณ ๑ ไร่เศษ ซึ่งไม่ครบ ๖ ไร่ แต่ก็สามารถขยายให้วัดมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ เนื่องจากการได้รับบริจาคที่ดินที่อยู่ - ๓ - ติดกับที่ตั้งวัด ซึ่งรวมกันแล้วมีเนื้อที่ครบ ๖ ไร่ โดยจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับวัดเจดีย์กุด (ร้าง) ต่อเมื่อได้มีการอนุญาตให้ยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว ๓. เห็นสมควรยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ และเห็นว่า เมื่อยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว สมควรให้ใช้ชื่อว่า วัดธรรม-สันติเจดีย์ เพื่อให้มีความไพเราะ และเพื่อความเป็นมงคลนามเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม อีกทั้งประชาชนเรียกขานกันอยู่ในปัจจุบัน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีความเห็นว่า ควรสนับสนุนให้ยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า วัดธรรมสันติเจดีย์ การขอยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะ-สงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับแล้ว ที่ประชุมพิจารณาแล้งวลงมติเห็นชอบให้ยกวัดเจดีย์กุด (ร้าง) ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา และเห็นชอบให้ตั้งชื่อว่า วัดธรรมสันติเจดีย์ (นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00192551_00516.pdf (112.63 kb)
จำนวนเข้าดู : 1271
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00