มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 28/2547
มติที่ 538/2547
เรื่อง การเผยแผ่ศาสนาในพื้นที่สูงภาคเหนือ
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๘/๒๕๔๗ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ............................................................ .. เรื่อง การเผยแผ่ศาสนาในพื้นที่สูงภาคเหนือ ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๘/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีหนังสือที่ ๐๘๐๓/๗๑๗๖ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๗ แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาแก้ปัญหาการเผยแผ่ศาสนาอิสลามในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอาจมีกลุ่มคนบิดเบือนหลักการคำสอนศาสนาเพื่อชักจูงเด็กและเยาวชนให้กระทำการในทางที่ผิดอันส่งผลกระทบต่อความมั่นคง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจึงได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่แล้ว และได้จัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยข่าว และหน่วยงานที่รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาชุมชนบนพื้นที่สูง เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๗ เพื่อพิจารณาเรื่องการเผยแผ่ศาสนาในพื้นที่สูงภาคเหนือ ที่ประชุมได้ให้ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และแนวทางการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ดังนี้ ๑. ข้อเท็จจริง ๑.๑ ปัจจุบันมีหมู่บ้านชาวเขาในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน ๓,๘๘๑ หมู่บ้าน โดยมีหน่วยราชการได้เข้าไปดำเนินการพัฒนา อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานมีข้อจำกัด ด้านกำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณ ทำให้ปัจจุบันมีหมู่บ้านชาวเขา จำนวน ๗๘๖ หมู่บ้าน ขาดการดูแลเอาใจใส่จากหน่วยงานทางราชการ ๑.๒ การเผยแผ่ศาสนาและการนับถือศาสนาใด ๆ เป็นสิ่งที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ปัจจุบันได้มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาและยุยงให้ - ๒ - เกิดการแตกแยกในสังคมจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ สำหรับการเผยแผ่ศาสนาโดยเฉพาะศาสนาอิสลามในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งมีมาเป็นเวลานานแล้ว ๑.๓ การเผยแผ่ศาสนาอื่นโดยเฉพาะศาสนาคริสต์นั้น มีองค์กรการจัดตั้ง แนวทาง และเงินทุนสนับสนุนที่สามารถเข้าถึงชุมชนต่าง ๆ บนพื้นที่สูงอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ๒. ข้อคิดเห็น ๒.๑ ศาสนาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การกำหนดนโยบาย แนวทาง มาตรการ เพื่อป้องกันและแก้ไขการบิดเบือนหลักคำสอนทางศาสนา และการชักจูงเด็กและเยาวชนให้หลงผิดนั้น สมควรดำเนินการในเชิงสร้างสรรค์ โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแผ่หลักการคำสอนทางศาสนาที่ถูกต้อง และไม่ก่อให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างศาสนาต่าง ๆ เป็นหลัก ๒.๒ การพิจารณาช่วยเหลือกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางสังคมและง่ายต่อการตกเป็นเป้าหมายถูกชักจูงให้หลงผิด เป็นเรื่องเร่งด่วนที่หน่วยราชการต้องดำเนินการเพื่อให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้มีโอกาสและทางเลือกอื่น ๆ ในสังคม ๒.๓ การส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่สูงได้มีโอกาสรับการศึกษาในพื้นที่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจำเป็น รวมทั้งต้องดำเนินการในลักษณะสงเคราะห์มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ เพื่อป้องกันการนำเด็กและเยาวชนชาวเขาออกจากพื้นที่เพื่อไปรับการศึกษาในพื้นที่อื่น ๒.๔ การกำหนดหน่วยงานและองค์กรที่รับผิดชอบในจังหวัดที่มีชุมชนชาวเขาอาศัยอยู่ เพื่อดำเนินมาตรการด้านการข่าวที่เป็นเอกภาพ และมีการติดตามและตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเป็นสิ่งจำเป็น /๒.๕ สำหรับ - ๓ - ๒.๕ สำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แก่ ชุมชนบนพื้นที่สูง เห็นสมควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ และให้ดำเนินกิจกรรมรวมทั้งให้การสนับสนุนองค์กรที่เกี่ยวข้องด้านพระพุทธศาสนา เพื่อร่วมกันเผยแผ่ศาสนาพุทธให้เข้าถึงคนและชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างทั่วถึง ๓. แนวทางการดำเนินการ ๓.๑ มาตรการระยะเร่งด่วน ๓.๑.๑ ให้จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการ ดังนี้ - จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการศาสนา และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อศึกษาปัญหาและกำหนดแนวทางในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผยแผ่ศาสนาแก่ชุมชนบนพื้นที่สูง - ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนศาสนาอิสลามของโรงเรียนตาดีกา โรงเรียนปอเนาะ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง - พิจารณาการให้การสงเคราะห์เด็กและเยาวชนชาวเขาที่ด้อยโอกาสที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย (กลุ่มเสี่ยง) ต่อการชักจูงอย่างใกล้ชิด - ประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรม-ป่าไม้ เร่งดำเนินการตรวจสอบการจัดตั้งมัสยิดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายที่จัดตั้งในพื้นที่ป่าหรือพื้นที่ที่ทางการไม่อนุญาต รวมทั้งแสวงหาแนวทางดำเนินการให้มีการจัดตั้งในพื้นที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ๓.๑.๒ ให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ศูนย์รักษาความปลอดภัย และหน่วยข่าวที่เกี่ยวข้อง ประสานและบูรณาการด้านการข่าว และให้จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ได้รับทราบเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวการเผยแผ่ศาสนาที่มีแนวความคิดรุนแรง /๓.๑.๓ ให้กระทรวง - ๔ - ๓.๑.๓ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งดำเนินการส่งเสริมเด็กและเยาวชนชาวเขาบนพื้นที่สูงให้สามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ โดยในชั้นต้น อาจไม่จำเป็นต้องมีการจัดระบบการศึกษาแบบเป็นทางการและเต็มเวลา ๓.๒ มาตรการระยะยาว ๓.๒.๑ ให้จังหวัดที่มีชุมชนบนพื้นที่สูงตามแผนแม่บทเพื่อการพัฒนาชุมชน สิ่งแวดล้อม และการควบคุมพืชเสพติด บนพื้นที่สูง จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการศาสนา และกรม-พัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อกำหนดแนวทางและบูรณาการการทำงานการป้องกันและ แก้ไขปัญหาการเผยแผ่ศาสนาในทางที่ผิดแก่ชุมชนบนพื้นที่สูง ๓.๒.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางการส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนชาวเขาบนพื้นที่สูง ให้สามารถเข้ารับการศึกษาในสถานศึกษาในระบบปกติให้มากที่สุด โดยอาจต้องดำเนินการทบทวนหลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานศึกษาและครูผู้สอนให้สามารถเอื้อต่อการพัฒนาการศึกษา แก่เด็กและเยาวชนชาวเขา สำหรับการเรียนการสอนศาสนาอิสลามให้ดูแลเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย ๓.๒.๓ ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำหนดแนวทางการพัฒนาอาชีพในการสงเคราะห์ชาวเขา เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้อพยพโยกย้ายออกจากพื้นที่ หรือเป็นปัจจัยให้กลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีเสนอทางเลือกอื่นให้แก่ชาวเขา ๓.๒.๔ ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบหลัก (เจ้าภาพ) ที่รับผิดชอบการพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา เพื่อพิจารณาแผนงาน โครงการ กิจกรรม และงบประมาณ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาโดยตรง ๓.๒.๕ ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดลำดับความ-สำคัญของหมู่บ้านชาวเขาที่สามารถดำเนินการในระบบการพัฒนาปกติ และหมู่บ้านที่จำเป็น - ๕ - ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากทางราชการ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา ๓.๒.๖ ให้กรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรม-พัฒนาสังคมและสวัสดิการ พิจารณาแนวทางและโครงการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงคนและชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่อง ข้อคิดเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ การเผยแผ่ศาสนาในพื้นที่ภาคเหนือ โดยกลุ่มคนที่ทำการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาอิสลามจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่หน่วยราชการต้องดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ ติดตามข้อมูล ให้มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา ส่งเสริม และแก้ไขปัญหา การเผยแผ่ศาสนาบนพื้นที่สูงอย่างใกล้ชิดด้วยการบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ อย่างมีเอกภาพ ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติมอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสาน-งานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล (นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00492551_00179.pdf (212.35 kb)
จำนวนเข้าดู : 933
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00