ครั้งที่ 16/2546

มติที่ 286/2546

เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้คณะสงฆ์ร่วมมือในการจัดการเรียนรู้พระพุทธศาสนา จากมหาเถรสมาคม

มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๖/๒๕๔๖ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ………………………………………… เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้คณะสงฆ์ร่วมมือในการจัดการเรียนรู้พระพุทธศาสนา จากมหาเถรสมาคม ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๖/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีหนังสือ ที่ ศธ ๐๑๐๐ (๒) ๖๕๗๗ ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๖ แจ้งว่า ตามที่มหาเถรสมาคมได้มอบให้ พระธรรมวรเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม และ พระเทพโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นผู้แทนมหาเถรสมาคม เพื่อดำเนินการพิจารณาหลักสูตรพระพุทธศาสนาในโรงเรียนร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยการประสานงานของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ บัดนี้ การดำเนินการจัดทำได้เสร็จสิ้นลงแล้ว จึงขอรายงานการดำเนินการ ดังนี้ ๑. กระทรวงศึกษาธิการ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ๔ คณะ เพื่อดำเนินการจัดทำต้นฉบับสาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ออกแบบกิจกรรม จัดทำคู่มือครู และจัดทำสื่อการเรียนรู้พระพุทธศาสนา มี พระเทพโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ-ราชวิทยาลัย เป็นประธานในการออกแบบและดำเนินการ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ๒. ได้จัดพิมพ์หนังสือ “กรอบความคิดในการจัดทำสาระการเรียนพระพุทธ-ศาสนา ในหลักสูตรใหม่” จำนวน ๑๕,๐๐๐ เล่ม โดยงบประมาณจากมหาวิทยาลัยมหา-จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ - ๒ - ๓. ได้จัดพิมพ์หนังสือ “การจัดสาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนา” จำนวน ๖๐,๐๐๐ เล่ม โดยงบประมาณจากกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ๔. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำสื่อการเรียนรู้พระพุทธศาสนาและแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำหนังสือเรียนพระพุทธศาสนา มี พระเทพโสภณ เป็นประธาน เพื่อจัดทำแบบเรียนและสื่อการเรียนรู้ ตามกรอบสาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ซึ่งได้ยกร่างเรียบร้อยแล้ว จำนวน ๔ ช่วงชั้น อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ ๕. ได้จัดอบรมครูแกนนำ ๔ รุ่น จำนวน ๘๐๐ รูป/คน เพื่อเป็นวิทยากรครูแกนนำอบรมครูทั่วประเทศ ๖. กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้รายละเอียดการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ที่คณะกรรมการได้จัดทำขึ้น เป็นหลักสูตรแกนกลางที่ทุกโรงเรียนต้องบรรจุไว้ในหลักสูตร ร้อยละ ๗๐ และแต่ละโรงเรียนสามารถเพิ่มเติมได้อีกร้อยละ ๓๐ พร้อมกับให้คณะ-อนุกรรมการที่จัดทำสาระการเรียนรู้กลุ่มอื่น ๆ นำสาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนาไปเป็นตัวอย่างในการจัดทำ ๗. กระทรวงศึกษาธิการกำหนดจัดอบรมครูสอนพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ คือ อบรมพระสงฆ์เพื่อเป็นครูสอนพระพุทธศาสนา จำนวน ๓,๕๐๐ รูป โดยได้จัดสรร งบประมาณให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยรับไปดำเนินการร่วมกับคณะสงฆ์ จำนวน ๕,๙๐๗,๕๐๐ บาท (ห้าล้านเก้าแสนเจ็ดพันห้าร้อยบาทถ้วน) และจัดอบรมครูสอนพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคฤหัสถ์ทั่วประเทศ ประมาณ ๓๓,๘๔๐ คน โดยให้เขตการศึกษาแต่ละเขตรับผิดชอบ และได้ตั้งงบประมาณไว้บางส่วน จำนวน ๙,๗๓๐,๑๒๑ บาท (เก้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดบาทถ้วน) เพื่อการนี้ กระทรวงศึกษาธิการขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รายงานถวายมหาเถรสมาคมเพื่อรับทราบ และขอความเมตตานุเคราะห์จากมหาเถรสมาคม เห็นชอบให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์แต่ละภาค ร่วมรับเป็นเจ้าของเรื่องบริหารโครงการ อบรมพระสงฆ์ในเขตการปกครอง รวมจำนวน ๓,๕๐๐ รูป ให้ความร่วมมือและสนับสนุน - ๓ - การจัดอบรมครูสอนพระพุทธศาสนาที่เป็นคฤหัสถ์ในเขตการศึกษาที่อยู่ในเขตการปกครอง โดยขอให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นผู้ประสานงานและสนับสนุนด้านวิชาการ ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการมีงบประมาณจำกัด ไม่สามารถจัดให้เพียงพอทุกรายการของค่าใช้จ่ายได้ จึงขอความเมตตานุเคราะห์จากคณะสงฆ์ได้โปรดอุปถัมภ์ค่าใช้จ่ายบางรายการตามแต่จะเห็นสมควรด้วย อนึ่ง กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการโรงเรียนวิถีพุทธ ซึ่งเน้นการนำหลักพุทธธรรมสู่วิถีชีวิต มีโรงเรียนสมัครใจเข้าร่วมโครงการ ๘๙ โรงเรียน ในการนี้ กระทรวงศึกษาธิการใคร่ขอความเมตตาจากมหาเถรสมาคม โปรดมอบพระสังฆาธิการในท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดโรงเรียนวิถีพุทธด้วย ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติว่า เรื่องนี้ พระเทพโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้แทนมหาเถรสมาคม ได้นำเสนอต่อที่ประชุมแล้ว และได้ให้ความเห็นชอบแล้ว (นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์) เลขาธิการมหาเถรสมาคม

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF00192551_00504.pdf (121.58 kb)

จำนวนเข้าดู : 1536

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00