มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 15/2546
มติที่ 276/2546
เรื่อง การขอยกวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) จังหวัดขอนแก่นขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๕/๒๕๔๖ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง การขอยกวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) จังหวัดขอนแก่น ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๕/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดขอนแก่น ได้มีหนังสือ ที่ ขก ๐๐๓๒/ ๓๑๙๘ ลงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๕ ได้ส่งรายงานขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุ อยู่จำพรรษา จำนวน ๑ วัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้ว ปรากฏรายละเอียด ดังนี้ วัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านโนนเขวา หมู่ที่ ๓ ตำบลดอนหัน อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ที่ดินของวัดมีจำนวน ๓๒ ไร่ ๒ งาน ๔๐ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๑๓๕๑๒ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. อุโบสถ (สร้างแล้ว ๖๐ %) ๓. กุฏิสงฆ์ ๔ หลัง ๔. ห้องน้ำ ๓ หลัง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๕ รูป / ระยะห่างจากวัด - ๒ - ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดท่าชลาวาส ประมาณ ๓ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดท่าแร่ ประมาณ ๓ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดตาลเรือง ประมาณ ๕ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดโพธิบัญลังก์ ประมาณ ๔ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑,๕๐๐ คน ในการนี้ ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก คือ พระธรรมสิทธิเวที พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นายประมวล เกตุจรูญ นางฐิติรัตน์ ลำดวน และนางสาลี่ ทองธาระ ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นว่า วัดกู่ประชาสามัคคี-บ้านอ้อ (ร้าง) มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด ทางราชการไม่ได้จัดประโยชน์ มีเสนาสนะมั่นคง และมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาไม่น้อยกว่า ๔ รูป ประชาชนให้การสนับสนุน จึงเห็นควรที่จะยกวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดยให้ใช้ชื่อว่า วัดกู่ประชาสามัคคี ตามคำขออนุญาต ซึ่งคำว่า บ้านอ้อ ที่นำไปต่อชื่อวัดกู่ประชาสามัคคีไม่ใช่เป็นชื่อของหมู่บ้าน แต่เป็นชื่อหนองน้ำซึ่งเดิมมีต้นอ้อขึ้นอยู่มากมายอยู่ติดกับที่ตั้งวัด ชาวบ้านเรียกกันเองว่าหนองอ้อหรือบ้านอ้อ เมื่อได้มีการออกเอกสารสิทธิที่ดิน จึงได้ใช้ชื่อว่าวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) ซึ่งปัจจุบันหนองน้ำได้ตื้นเขินและไม่มีต้นอ้อปรากฏให้เห็นแล้ว จึงเห็นสมควรให้ใช้ชื่อ วัดกู่ประชาสามัคคี โดยตัดคำว่า บ้านอ้อ ออก เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปว่าเดิมวัดตั้งอยู่ที่บ้านอ้อ ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีชื่อหมู่บ้านอ้ออยู่ในท้องที่ตำบล - อำเภอนี้แต่อย่างไร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีความเห็นว่า ควรสนับสนุนให้ยก วัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า วัดกู่ประชาสามัคคี / การขอยกวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) - ๓ - การขอยกวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราช-บัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าคณะพระ- สังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับแล้ว ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยกวัดกู่ประชาสามัคคีบ้านอ้อ (ร้าง)ตำบลดอนหัน อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาและเห็นชอบให้ตั้งชื่อว่า วัดกู่ประชาสามัคคี ตามที่เสนอ (นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00192551_00494.pdf (101.23 kb)
จำนวนเข้าดู : 1153
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00