มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 19/2548
มติที่ 350/2548
เรื่อง ขอความเห็นชอบในหลักการให้จัดทำร่างระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนวัดและหลักเกณฑ์ของวัดที่จะขึ้นทะเบียน
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๙/๒๕๔๘ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง ขอความเห็นชอบในหลักการให้จัดทำร่างระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนวัดและหลักเกณฑ์ของวัดที่จะขึ้นทะเบียน เรียน ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๙/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๘ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๕/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำรายงานผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขอขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณา ๒ กรณี คือ ๑. กรณีการขอขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจ ๒. กรณีวัดราชายตนบรรพต และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอถอนเรื่องออก เพื่อพิจารณาทบทวนการขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจให้ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วนำเสนอมหาเถรสมาคม เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย และวิธีปฏิบัติควรพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบและรัดกุม อนึ่ง ที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้มอบแนวปฏิบัติในการแต่งตั้งคณะ-กรรมการ/อนุกรรมการ/คณะทำงาน เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องคณะสงฆ์ทั้งหมดว่า จะต้องให้มีพระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในด้านนั้น ๆ เป็นกรรมการหรือตำแหน่งใด ๆ ร่วมพิจารณาด้วยทุกคณะ - ๒ - บัดนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณา-การขอขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจ โดยมี พระธรรมสิทธิเวที และพระธรรมวรเมธี เป็น ที่ปรึกษา เพื่อพิจารณาหาแนวทางการขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจให้ถูกต้องตามกฎหมาย และได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๘ ผลการประชุมสรุปดังนี้ ประเด็นแรก การปฏิบัติเกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจ ไม่มีกฎหมายรองรับ เพราะตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ไม่ได้กำหนดเรื่องการขอขึ้นทะเบียนวัดเก่าตกสำรวจไว้ ถ้าจะอนุโลมให้ขึ้นทะเบียนวัดตามหลักเกณฑ์เดิม ซึ่งให้จังหวัดตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และรับรองว่าเป็นวัดเก่าที่สร้างขึ้นก่อนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ ปัจจุบัน บางวัดที่เสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าตกสำรวจ เมื่อพิจารณาดูจากสภาพวัดน่าจะเป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ เพราะไม่มีความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับซากวัตถุโบราณ หรือตำนานใด ๆ ที่กล่าวถึง ประเด็นที่สอง วัดเก่าตกสำรวจไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน เมื่อนำมาขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าตกสำรวจแล้วเกิดปัญหาเรื่องวัดขอออกเอกสารสิทธิในนามของวัดไม่ได้ ทำให้วัดที่ขึ้นทะเบียนไปแล้วตั้งอยู่บนที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในปัจจุบัน วัดราชายตนบรรพต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นวัดที่ได้รับอนุญาตให้ สร้างวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการตั้งวัดและไม่มีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนวัด เนื่องจากตามพระราชบัญญัติคณะ-สงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓๑ ได้กำหนดว่า วัดมี ๒ อย่าง คือ วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา และสำนักสงฆ์ จึงถือได้ว่าวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงสมควรนำวัดราชายตนบรรพตขึ้นทะเบียนวัดได้ โดยไม่ต้องดำเนินการขออนุญาตตั้งวัดอีก นอกจากนั้นที่ประชุมได้ลงมติให้ดำเนินการจัดทำทะเบียน โดยให้สำรวจให้ครอบคลุมวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาและมีเอกสารสิทธิที่ดินครบถ้วนตามเกณฑ์ - ๓ - การตั้งวัด ให้นำขึ้นทะเบียนได้ และให้ออกระเบียบ ว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนวัด เพื่อจะได้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการจัดทำทะเบียนวัดให้ถูกต้องต่อไป ที่ประชุมมีมติมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยกองพุทธศาสน-สถานจัดทำระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนวัด และกำหนดหลักเกณฑ์ของวัดที่จะขึ้นทะเบียนได้ คือ ๑. เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว ๒. เป็นวัดที่ผ่านขั้นตอนการขออนุญาตสร้างวัด ตั้งวัด ๓. เป็นวัดตกสำรวจที่มีเอกสารสิทธิที่ดินถูกต้อง และให้ดำเนินการผ่านตามกระบวนการในข้อ ๒ ก่อน ๔. วัดที่ขึ้นทะเบียน แต่ยังไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน ให้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จ ที่ประชุมให้เลื่อนการพิจารณาออกไป เพื่อให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ง-ชาติจัดทำข้อมูลให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอมหาเถรสมาคม จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการต่อไป (นางจุฬารัตน์ บุณยากร) ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00492551_00529.pdf (127.45 kb)
จำนวนเข้าดู : 1329
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00