มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 25/2548
มติที่ 479/2548
เรื่อง รายงานการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจตรวจเยี่ยมวัดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๕/๒๕๔๘ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง รายงานการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจตรวจเยี่ยมวัดในพื้นที่ ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๕/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม ได้มีลิขิต ที่ ยว ๐๐๙๙/๒๕๔๘ ลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๘ แจ้งว่า ตามที่มหาเถรสมาคม ได้มีมติครั้งที่ ๒๓/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๘ อนุมัติให้ พระพรหมวชิรญาณ เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดนวมินทรราชูทิศ นครบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๘ นั้น เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นิมนต์ พระพรหมวชิรญาณ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศล ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๘ โดยมี พระสุธีธรรมนาถ ผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นพระอนุจร และทรงพระกรุณาโปรดให้พำนัก ณ สำนักสงฆ์ ในเขตพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ตลอดทั้ง ๔ วัน ด้วยเหตุนี้ พระพรหมวชิรญาณ จึงเลื่อนกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกไปเป็นวันที่ ๑๗ - ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ในการเดินทางไปฉลองพระราชศรัทธา ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ครั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก ณพล บุญทับ รองสมุห- ราชองครักษ์ นิมนต์ พระพรหมวชิรญาณ ไปเยี่ยมเพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่พระสงฆ์ พุทธศาสนิกชน ตลอดถึงทหาร ตำรวจ และราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ตามโครงการใน - ๒ - พระราชดำริใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ไปเยี่ยมวัดพรหมประสิทธิ์ ตำบลบ้านนอก อำเภอปะนาเระ ซึ่งเป็นวัดที่ถูกกลุ่มผู้ร้ายบุกเข้าไปฆ่าพระและศิษย์วัดเมื่อคืนวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๘ หลังจากดูสภาพทั่วไปในบริเวณวัดแล้ว พระพรหมวชิรญาณ ได้แจ้งให้ คณะสงฆ์ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลอัฐิ พระแก้ว และศิษย์-วัด ๒ คน ที่ถูกกลุ่มผู้ร้ายฆาตกรรม ให้ทราบว่า มหาเถรสมาคม ในพระนาม เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งมี เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีความห่วงใยต่อพระสงฆ์และพุทธศานิกชนทุกจังหวัดในภาคใต้ โดยเฉพาะใน ๓ จังหวัดภาคใต้ เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น ก็มิได้นิ่งดูดาย ได้กำชับเจ้าคณะพระสังฆาธิการผู้ปกครอง ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังได้ส่งคณะผู้แทนมหาเถรสมาคมออกมาให้ความสงเคราะห์ อนุเคราะห์ เป็นระยะ ๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็เดินทางมาตรวจเยี่ยม บังเอิญในช่วงนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้อาราธนาพระพรหมวชิรญาณมาในการบำเพ็ญพระราชกุศลส่วนพระองค์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ อาราธนามาเยี่ยมวัดและพระสงฆ์ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนในชุมชนต่าง ๆ ใน ๓ จังหวัดภาคใต้ด้วย และได้มาร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแก่พระภิกษุ และศิษย์ วัดพรหมประสิทธิ์ พร้อมทั้งได้แจ้งให้ทราบว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยและมีพระราชประสงค์จะให้ พลเอก ณพล บุญทับ จัดเจ้าหน้าที่มาฝึกอบรมกลุ่มอาสารักษาหมู่บ้าน แต่ทราบว่า ทางชุมชนหมู่บ้านนี้แจ้งว่า ในหมู่บ้านนี้ไม่มีปัญหา ต่างอยู่กันอย่างสงบสุข ถึงแม้จะเกิดมีเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ทั้งนี้ พระพรหมวชิรญาณ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท การที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกลุ่มอาสารักษาหมู่บ้าน พร้อมทั้งให้ทหารมาฝึกอบรมการใช้อาวุธให้นั้น มิใช่พระองค์ทรงมีพระราช-ประสงค์จะให้ชาวบ้านออกรบ หรือทำการสงครามแต่อย่างใด แต่พระองค์ทรงห่วงใยต่อ - ๓ - ชีวิตและทรัพย์สินของพสกนิกรของพระองค์ มิใช่จะให้พสกนิกรของพระองค์รอให้ผู้ร้ายมาเข่นฆ่าตายฟรี ๆ หรือรอแต่ให้ทหารตำรวจมาป้องกันรักษาความปลอดภัยให้ เพราะกำลังตำรวจทหารก็มีจำกัด เวลามีเหตุการณ์เกิดขึ้น บางทีทหารตำรวจก็มาไม่ทัน เพราะฉะนั้น ทุกคนก็ควรจะได้มีการเตรียมการป้องกันตัวเองไว้ในระดับหนึ่งก่อน บางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตระหนก เพื่อให้ขายบ้านขายที่ถูก ๆ หรือทิ้งบ้านทิ้งที่หนีไปอยู่ที่อื่น ซึ่งถ้าทำเช่นนั้น ก็จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ประสงค์ร้ายทันที ทุกคนควรจะพร้อมเพรียงกัน ผนึกกำลังกันรักษาบ้านรักษาแผ่นดินบรรพบุรุษไว้ ไม่ต้องหวาดกลัวต่อการสร้างสถานการณ์ก่อกวนของผู้ไม่ปรารถนาดีต่อชาติศาสนาและประชาชนในบ้านเมือง และได้เตือนสติว่า ถึงอย่างไร ทางคณะสงฆ์ รัฐบาล และสถาบันพระมหา-กษัตริย์ จะไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน ในเร็วนี้ ๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม-ราชินีนาถ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทหารมาฝึกอบรม และตั้งกลุ่มอาสาป้องกันหมู่บ้าน เพื่อให้ทุกคนมีความปลอดภัยต่อไป จากนั้น พระพรหมวชิรญาณ ได้ถวายปัจจัยส่วนตัวแก่พระสงฆ์ที่มาในพิธี จำนวน ๑๕,๐๐๐.- บาท พร้อมกับมอบวัตถุมงคลแก่ประชาชนในจุดนี้ไว้ประมาณ ๕๐๐ ชุด เสร็จแล้วได้เดินทางไปที่ศูนย์ฝึกอบรมกลุ่มอาสารักษาหมู่บ้านในพระราชดำริที่ตำบลช้างไห้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีอาสาสมัครรักษาหมู่บ้านอยู่ ๒๓๐ คน ซึ่งโครงการนี้ ขณะนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ฝึกอบรมสมาชิกกลุ่มอาสารักษาหมู่บ้านอยู่ ๓๓ อำเภอ ใน ๓ จังหวัด และมีสมาชิกอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด จำนวน ๑๐,๐๐๐ คน และกำลังขยายโครงการนี้ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ด้วย ในการเดินทางมาครั้งนี้ นอกจากจะได้เยี่ยมวัด เยี่ยมพระสงฆ์และประชาชนในเส้นทางผ่านจุดต่าง ๆ แล้ว พระพรหมวชิรญาณ ได้ถือโอกาสเยี่ยมหน่วยทหารตำรวจ และสมาชิกกลุ่มอาสารักษาหมู่บ้านในจุดต่าง ๆ ด้วย โดยได้แจ้งให้ทุกจุดที่ไปเยี่ยมและมาต้อนรับให้ได้ทราบตรงกันทุกจุดตามแนวดังกล่าวแล้ว พร้อมกับได้มอบวัตถุมงคลให้ทุกคนทุกจุดโดยทั่วถึงกัน ทั้งนี้ พระพรหมวชิรญาณ ได้สังเกตว่า ทุกคนและทุกจุดที่ไปเยี่ยม - ๔ - ต่างต้องการวัตถุมงคล (คือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน) มากกว่าที่จะได้รับปัจจัยใด ๆ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นสมควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และขออนุโมทนาในการไปปฏิบัติศาสนกิจในครั้งนี้ (นางจุฬารัตน์ บุณยากร) ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00592551_00067.pdf (174.69 kb)
จำนวนเข้าดู : 811
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00