มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 25/2548
มติที่ 480/2548
เรื่อง รายงานการตรวจเยี่ยมวัดในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๕/๒๕๔๘ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง รายงานการตรวจเยี่ยมวัดในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียน ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๕/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า พระธรรมวิสุทธิกวี เจ้าคณะภาค ๑๖ - ๑๗ - ๑๘ (ธรรมยุต) ได้รายงานผลการตรวจเยี่ยมวัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม ๕ จังหวัด คือ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา ระหว่างเดือนพฤษภาคม - กันยายน ๒๕๔๘ โดยมอบให้ พระเทพวราจารย์ รองเจ้าคณะภาค ๑๖ - ๑๗ - ๑๘ (ธรรมยุต) ออกไปตรวจเยี่ยมวัด พระภิกษุสามเณร และประชาชนในพื้นที่ รวม ๙ ครั้ง สรุปผล ดังนี้ ๑. การเยี่ยมเยือนหมู่บ้านและชุมชน ทำให้พุทธศาสนิกชนมีขวัญและกำลังใจ มีความมั่นใจต่อการครองชีพและการดำรงชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น ๒. ความสัมพันธ์ระหว่างศาสนิกชน ศาสนิกชนมีความหวาดกลัว แต่สามารถแยกแยะและเข้าใจในความแตกต่างในทางศาสนาได้อย่างชัดเจน ๓. ความเป็นอยู่ของพระภิกษุสามเณรมีความลำบาก ทั้งการออกรับบิณฑบาตหรือกิจของสงฆ์อื่น ๆ เช่น ออกไปสอนหนังสือแก่นักเรียนในโรงเรียน ไม่สามารถจะให้นักเรียนเข้ามาเรียนธรรมศึกษาในวัด เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกจากบ้าน ปัจจุบัน พระภิกษุสามเณรใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มั่นใจในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่หลังจากรองเจ้าคณะ-ภาค ๑๖ - ๑๗ - ๑๘ (ธรรมยุต) ได้เข้าไปเยี่ยมเยือนแล้ว ทำให้พระภิกษุสามเณรมีขวัญกำลังใจดีขึ้น มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับปัญหาอุปสรรค เพื่อจะรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังมีความต้องการได้รับการช่วยเหลือ และความร่วมมือจากทางราชการทุกด้าน ๔. การปฏิบัติงานของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ถึงจะมีหน่วยราชการให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างมากแล้ว แต่บรรดาราชการเองก็ต้องปฏิบัติงานหนักกว่า เพราะต้องรักษาชีวิตตนเองและ - ๒ - ช่วยเหลือทั้งพระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป ให้การคุ้มกันพระภิกษุสามเณรที่ออกไปนอกวัดและในวัด จึงถือว่า เจ้าหน้าที่มีภาระหนักมาก ๕. สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังคลุมเครือ ไม่สามารถบอกได้ว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ จะสิ้นสุดเมื่อใด ประชาชนอยู่ด้วยความหวาดระแวง ไม่แน่ใจในชีวิตของตนและพวกพ้อง ๖. สภาพของวัดที่ประสบปัญหาส่วนใหญ่เงียบสงัด แต่จะมีทหารตำรวจเฝ้าอารักขาโดยอาศัยนอนอยู่ในวัดนั้น ๆ ๗. กิจกรรมหรือการปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญ ทุกกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น งานวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา การอบรมพุทธศาสนิกชน จะปฏิบัติได้เฉพาะในวัด งานศพที่จัดตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดก็มีความจำเป็นจะต้องป้องกันเป็นพิเศษโดยทหารหรือตำรวจ ส่วนศาสนกิจอื่น ๆ เช่น ทำวัตรสวดมนต์ ทำได้ตามปกติ แต่ในวันธัมมัสวนะ ประชาชนจะเข้าวัดน้อยมาก ๘. ได้เสนอแนะในด้านต่าง ๆ เช่น ทุกหน่วยงานของรัฐต้องให้ความจริงจังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปลูกจิตสำนึกในทางที่ถูกต้องและให้การศึกษาเพื่อสร้างทัศนคติในทางที่ควรและถูกต้อง สร้างความมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล ร่วมมือ และประสานใจกันแก้ปัญหา เข้าถึงประชาชนในท้องที่ ค้นหาสาเหตุการเกิดปัญหาให้ชัดเจนแน่นอน เป็นต้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ จึงเรียนมาเพื่อโปรดมอบส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป (นายพิศาล แช่มโสภา) ผู้อำนวยการส่วนงานมหาเถรสมาคม มอบส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป (นางจุฬารัตน์ บุณยากร)
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00592551_00068.pdf (94.27 kb)
จำนวนเข้าดู : 808
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00