มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 01/2549
มติที่ 12/2549
เรื่อง โครงการ การให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนวัดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑/๒๕๔๙ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง โครงการ การให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนวัดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียน ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑/๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๙ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่ได้มีเหตุการณ์ลอบทำร้ายพระสงฆ์และทำลายทรัพย์สินภายในวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ การลอบทำร้ายพระสงฆ์และศิษย์-วัด ที่วัดพรหมประสิทธิ์ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๘ การลอบวางเพลิงรถยนต์และเสนาสนะ ที่วัดตะเคียนทอง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการปฏิบัติศาสนกิจของคณะสงฆ์ รวมถึงวิถีการดำรงชีวิตของพุทธศาสนิกชนใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะสงฆ์จังหวัด-ปัตตานีจึงได้ออกแถลงการณ์เสนอให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขและสนองต่อความต้องการที่จะสร้างความเข้มแข็งและปลอดภัยให้แก่วัด พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนให้มากยิ่งขึ้น นั้น รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติ โดยกองพุทธศาสนสถาน ประสานหารือกับเจ้าคณะพระสังฆาธิการใน ๓ จังหวัด เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา และได้มีความเห็นพ้องร่วมกันว่า ควรจัดทำโครงการเพื่อแก้ไขและปรับปรุงสภาพการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพระสงฆ์และ พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ คือ โครงการการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนวัดใน ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ โดยแยกเป็น ๓ กิจกรรมย่อย คือ ๑. กิจกรรม บ้านรักษ์วัด เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนรอบวัด โดยให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ดังกล่าวได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ช่วยงาน - ๒ - คณะสงฆ์และทำหน้าที่เฝ้าระวังรักษาดูแลความปลอดภัย มีการฝึกอบรมอาสาสมัครให้มีความรู้และทักษะในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ตนเองและวัด โดยจัดให้มีอาสาหมุนเวียนภายในแต่ละวัด ประมาณ ๑๐ คน (สลับหน้าที่วันละ ๓ คน) โดยรัฐบาลจะอุดหนุนค่าใช้จ่ายตอบแทนเป็นค่าอาหารวันละ ๕๐๐.- บาท/วัด/วัน รวมพื้นที่ ๓ จังหวัด รวม ๒๓๐ วัด เป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ ๓,๔๕๐,๐๐๐.- บาท หรือปีละ ๔๑,๔๐๐,๐๐๐.- บาท ๒. กิจกรรมจัดหาเครื่องมือสื่อสารและติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณเตือนภัย เพื่อ ติดตั้งภายในวัดสำหรับการประสานงานติดต่อกับหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ในกรณี- ฉุกเฉินได้ โดยประมาณการค่าใช้จ่ายวัดละ ๒๕,๐๐๐.- บาท รวม ๒๓๐ วัด คิดเป็น งบประมาณ จำนวน ๕,๗๕๐,๐๐๐.- บาท ๓. กิจกรรมการสนับสนุนงบประมาณให้แก่วัดต่าง ๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะ ปรับปรุงอาคาร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อมุ่งรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงต่อวัด ที่เหมาะสมและจำเป็น รวม ๑๙๗ วัด คือ ๓.๑ จังหวัดยะลา จำนวน ๔๖ วัด ๓.๒ จังหวัดปัตตานี จำนวน ๖๗ วัด ๓.๓ จังหวัดนราธิวาส จำนวน ๘๔ วัด โดยกำหนดพื้นฐานความจำเป็นที่สำคัญและเร่งด่วนของวัดเพื่อความปลอดภัยและมั่นคง คือ การจัดทำรั้วป้องกันและการเสริมสร้างกุฏิให้มีความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งได้ประมาณการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายให้การสนับสนุนวัดละ ๒๕๐,๐๐๐.- บาท รวม ๑๙๗ วัด เป็นเงิน ๔๙,๒๕๐,๐๐๐.- บาท รวมค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการทั้งโครงการ เป็นเงิน ๙๖,๔๐๐,๐๐๐.- บาท ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้การอุปถัมภ์คุ้มครองความปลอดภัยและดำเนินกิจกรรมของคณะสงฆ์ อนึ่ง คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ อนุมัติให้ถวายการคุ้มครองและสนับสนุนวัดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๙๖,๔๐๐,๐๐๐.- บาท - ๓ - จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้เบิกจ่ายงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำลังดำเนินการจัดทำรายละเอียดประกอบการจัดสรร เพื่อโอนค่าใช้จ่ายให้แก่วัดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานกับ คณะกรรมการประสานงานกรณีธรณีพิบัติในภาคใต้และอุบัติภัย ซึ่งมี พระพรหมเวที เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการประสานงานในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๘ ซึ่งมี พระธรรมรัตนากร เจ้าคณะภาค ๑๘ เป็นประธานกรรมการ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาของคณะสงฆ์ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการต่อไป (นางจุฬารัตน์ บุณยากร) ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00992551_00011.pdf (129.29 kb)
จำนวนเข้าดู : 791
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00