มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 04/2549
มติที่ 92/2549
เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และโครงการปฏิบัติธรรม- ครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๔/๒๕๔๙ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และโครงการปฏิบัติธรรม- ครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม เรียน ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๔/๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่ พระเทพวิสุทธิกวี เลขานุการคณะผู้ปฏิบัติ-หน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้เสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๘/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ว่า นายกรัฐมนตรีได้ร่วมประชุมกับองค์กรต่าง ๆ ที่ทำเนียบรัฐบาล และปรารภถึงเยาวชนที่กำลังสับสนในด้านการปฏิบัติตนในสังคมปัจจุบัน ซึ่งมักจะไม่อยู่ในกรอบวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย จึงเป็นเรื่องน่าห่วงใย เพราะเยาวชนเป็นอนาคตที่สำคัญของสังคมและประเทศชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรจะมีโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติแล้วเสนอเป็นนโยบายต่อรัฐบาล โดยให้ข้าราชการทุกส่วนราชการได้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม และเชิญชวนเยาวชนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยให้เข้าร่วมโครงการด้วย ที่ประชุมลงมติมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติรวบรวมข้อมูลโครงการปฏิบัติธรรมทั้ง ๒ โครงการ คือ โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และโครงการปฏิบัติธรรมครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอมหาเถรสมาคม นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอนมัสการว่า คณะรัฐมนตรีได้ลงมติ เห็นชอบโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เมื่อวันที่ - ๒ - ๒๐ มกราคม ๒๕๔๗ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ โดยอนุมัติให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสมัครเข้ารับการอบรมปฏิบัติธรรมโดยไม่ถือเป็นวันลา แต่ไม่ถือเป็นการไปปฏิบัติ-ราชการ ครั้งละ ๓ หรือ ๕ วันทำการต่อปี ทั้งนี้ ในระยะแรกให้ทดลองดำเนินการก่อน ๑ ปี แล้วให้เสนอการประเมินผลโครงการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติโครงการระยะยาวต่อไป สืบเนื่องจากโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการ-ปฏิบัติงาน กำหนดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นเข้าร่วมโครงการ แต่ประชาชนทั่วไปไม่-สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงได้จัดโครงการปฏิบัติธรรมครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรมขึ้น เพื่อให้นักเรียน เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมปฏิบัติธรรม โดยกำหนดระยะเวลาการอบรม ๓ วัน ๒ คืน สำหรับสถานที่อบรมปฏิบัติธรรม ได้แก่ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดตาม มติมหาเถรสมาคม และสำนักปฏิบัติธรรมที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด รวม ๘๑๖ แห่งแต่ละแห่งจะได้รับงบประมาณสนับสนุน เพื่อเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จำนวน ๘๐.- บาท/คน/วัน เช่นเดียวกับโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ดำเนินการประเมินผลโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และโครงการปฏิบัติธรรมครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม ปีงบประมาณ ๒๕๔๗ - ๒๕๔๘ เรียบร้อยแล้ว ผลการประเมินสรุปตามลำดับดังนี้ ก. โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน - มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ารับการอบรมปฏิบัติธรรม จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ คน ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของโครงการ - จากการประเมินประโยชน์ที่ได้รับจากการอบรมปฏิบัติธรรม พบว่า ผู้ผ่านการอบรมปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่เห็นว่า มีประโยชน์มากเป็นอันดับแรก คือ เรื่องของการมีจิตใจผ่อนคลาย เกิดความสงบและอารมณ์มั่นคง รองลงไปคือ สามารถนำศีล ๕ มาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ควบคุมอารมณ์และจิตใจของตนเองได้ดี สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานแก่ผู้อื่นโดยใช้แนวทางที่ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติธรรม - ๓ - ข. โครงการปฏิบัติธรรมครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม - มีเยาวชนและประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ จำนวน ๒๖๔,๑๒๘ คน ในปีงบประมาณ ๒๕๔๙ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับเงินอุดหนุนการดำเนินการโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและโครงการปฏิบัติธรรมครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรม จำนวน ๓๘,๕๐๐,๐๐๐.- บาท รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบถวายในที่ประชุม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และขออนุโมทนารัฐบาลที่ให้ความสำคัญแก่การปฏิบัติธรรม ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินัดประชุมเจ้าคณะภาคและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นการภายใน เพื่อกำหนดแนวทางการขยายการดำเนินงานให้กว้างขวางยิ่งขึ้น แล้วเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการ-มหาเถรสมาคมได้แจ้งให้กองพุทธศาสนศึกษาทราบด้วยแล้ว (นางจุฬารัตน์ บุณยากร) ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00992551_00089.pdf (133.85 kb)
จำนวนเข้าดู : 826
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00