มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 26/2549
มติที่ 579/2549
เรื่อง รายงานการตรวจเยี่ยมคณะสงฆ์จังหวัดนราธิวาสและจังหวัดยะลา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๖/๒๕๔๙ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ......... เรื่อง รายงานการตรวจเยี่ยมคณะสงฆ์จังหวัดนราธิวาสและจังหวัดยะลา เรียน ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๖/๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่คณะสงฆ์จังหวัดนราธิวาสได้มีมติ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ให้พระสงฆ์ในจังหวัดนราธิวาสงดบิณฑบาตชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ เป็นระยะเวลา ๑ เดือน และกรณีที่ประชาชนในพื้นที่อำเภอบันนังสตาและอำเภอธารโต จังหวัดยะลา ได้อพยพหนีภัยการก่อความไม่สงบ มาพักอาศัย ณ วัดนิโรธสังฆาราม อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ นั้น ในการนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลและเยี่ยมเยียน ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ และขอสรุปรายงานถวายเพื่อโปรดทราบ ดังนี้ ๑. จังหวัดนราธิวาส ๑.๑ วัดของคณะสงฆ์ทั้ง ๒ ฝ่าย ในพื้นที่ รวม ๗๑ วัด และที่พักสงฆ์ จำนวน ๑๖ แห่ง งดออกบิณฑบาตแล้ว ๑.๒ พุทธศาสนิกชนบางส่วนได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคมาถวาย และมีประชาชนบางส่วนสลับหมุนเวียนกันมาช่วยปรุงภัตตาหารถวายพระภิกษุสามเณร - ๒ - ๑.๓ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้จัดสรรเงินอุดหนุนจาก กองทุนผู้ประสบอุบัติภัยภาคใต้ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐.- บาท เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน ๑,๐๐๐ ชุด มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาสเพื่อนำไปช่วยเหลือเป็นค่าภัตตาหารในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ๑.๔ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาสทั้ง ๒ ฝ่าย ได้รวบรวมรายชื่อวัด/พระ-ภิกษุ ในพื้นที่ทั้งหมด จำนวน ๗๑ วัด และที่พักสงฆ์ จำนวน ๑๖ แห่ง โดยแยกเป็นมหานิกาย ๖๘ วัด ที่พักสงฆ์ จำนวน ๑๕ แห่ง พระภิกษุจำนวน ๓๑๕ รูป ส่วน ธรรมยุติกนิกาย มีวัด ๓ วัด และที่พักสงฆ์ ๑ แห่ง พระภิกษุจำนวน ๗ รูป รวมทั้งสิ้น ๓๒๒ รูป เพื่อนำเสนอประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติและอุบัติภัยพิจารณาจ่ายเงินจากกองทุนวัดช่วยวัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านภัตตาหารระยะเวลา ๑ เดือน ๒. จังหวัดยะลา ๒.๑ ได้ตรวจเยี่ยมชุมชนที่อพยพมาพักอาศัยที่วัดนิโรธสังฆาราม ขณะนี้ มีประชาชนจากหมู่บ้านสันติ ๑ บ้านกาสัง บ้านกาโสด อำเภอบันนังสตา และหมู่บ้านสันติ ๒ หมู่บ้านจุฬาภรณ์ ๗ และ ๙ อำเภอธารโต จำนวน ๕๘ ครอบครัว รวม ๒๐๖ คน ๒.๒ สถานที่พักแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ใต้ฐานเจดีย์ของวัด และศาลาอเนกประสงค์ ๒.๓ เด็กในวัยเรียนที่พักอาศัยที่วัดนิโรธสังฆาราม มีการดำเนินการดังนี้ ๑) เด็กก่อนเกณฑ์ จำนวน ๑๓ คน จัดให้มีการเรียนการสอน ภายในวัด มีครูติดตามมาด้วย จำนวน ๔ คน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต ๒ จัดส่งเจ้าหน้าที่มาสอนและประสานงาน จำนวน ๕ คน นักเรียนระดับประถมศึกษา - ๓ - ป. ๑ - ๓ จำนวน ๖ คน ฝากเรียนที่โรงเรียนซึ่งอยู่ใกล้กับวัด ระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๖ คน ฝากเรียนที่โรงเรียนเทศบาล ๒ ๒) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต ๒ จัดส่งศึกษานิเทศก์มาช่วยดูแลและประสานงานทุกวัน พร้อมจัดตั้งศูนย์เด็กขึ้นภายในวัด ๒.๔ ด้านการช่วยเหลือดูแลประชาชน ๑) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราช-ทรัพย์ถวายวัดนิโรธสังฆาราม เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าน้ำ - ไฟฟ้า จำนวน ๒๐๐,๐๐๐.- บาท และมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดอาหารเลี้ยงราษฎรที่มาพักอาศัยในวัด จำนวน ๔๐๐,๐๐๐.- บาท ๒) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชทรัพย์ถวายวัดนิโรธสังฆาราม จำนวน ๕๐,๐๐๐.- บาท ๓) นายกรัฐมนตรี (พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์) ถวายวัดนิโรธ- สังฆาราม จำนวน ๑๐,๐๐๐.- บาท ๔) คณะสงฆ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ องค์กรเอกชน หน่วยงาน- ราชการ และอื่น ๆ (ข้อมูล ณ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๙) เป็นเงินจำนวน ๕๐๔,๐๐๐.- บาท ๕) สิ่งของเครื่องใช้ มีเพียงพอ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า นมสำหรับเด็กเล็ก ๖) อาหาร (อาหารสำเร็จรูป) มีผู้บริจาควันละ ๓ มื้อ โดยทางวัด มีเจ้าหน้าที่จัดปรุงภัตตาหารถวาย ๒.๕ การควบคุมดูแลประชาชน ๑) เจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์-จังหวัด มาดูแลความเป็นอยู่ ๒) เทศบาลนครยะลา จัดทำห้องน้ำห้องสุขา ดูแลน้ำดื่มน้ำใช้ - ๔ - ๓) ศูนย์สุขภาพชุมชนเฉพาะกิจ เครือข่าย โรงพยาบาลยะลา กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยแพทย์ ทหารเฉพาะกิจที่ ๑๑ กองพันพัฒนา มาดูแลรักษาสุขภาพ ๔) สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลา ได้ประสานกับวัด ต่าง ๆ และคณะสงฆ์ ร่วมบริจาค เยี่ยมเยียน ให้ความอนุเคราะห์ดูแลในทุก ๆ ด้าน วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับ รายงานจากเจ้าอาวาสวัดนิโรธสังฆารามว่า มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้โทรศัพท์มาที่วัดข่มขู่จะทำร้ายต่อชีวิต เนื่องจากให้ที่พักอาศัยแก่ประชาชน และจะไม่รับรองความปลอดภัยในการเดินทาง อนึ่ง วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ได้ตรวจเยี่ยมวัดวชิรปราการ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ซึ่งมีประชาชน จำนวน ๔๐ คน มารวมตัวกันที่วัด ในงานศพ นายอุดมศักดิ์ พรหมจรรย์ ประชาชนในอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ที่ถูกผู้ก่อการร้ายฆ่าเสียชีวิต ซึ่งประชาชนที่มาร่วมงานศพไม่สามารถที่จะกลับภูมิลำเนาได้ เนื่องจากผู้ก่อความไม่สงบได้ข่มขู่ไว้ในเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยประชาชนที่อยู่ ณ วัดวชิรปราการ ประกอบด้วย ประชาชนในตำบลเรียง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ประชาชนในตำบลกาลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ซึ่ง ๒ จังหวัดนี้มีพื้นที่ติดกัน รวม ๑๐ ครอบครัว รวมจำนวน ๔๐ คน สภาพปัญหา ๑. วัดวชิรปราการ มีพระภิกษุ จำนวน ๖ รูป ขณะนี้ได้งดออกบิณฑบาต เป็นครั้งคราวแล้วแต่สถานการณ์ (ตามสายข่าวทางทหารชุดคุ้มครอง) ๒. ประชาชน จำนวน ๔๐ คน ไม่สามารถที่จะกลับเข้าบ้านได้ เนื่องจาก ผู้ก่อความไม่สงบได้เข้าไปยึดพื้นที่และขู่ทำร้ายหากกลับเข้าไป ๓. ทางวัดได้จัดศาลาอเนกประสงค์ เต็นท์ของทหาร ให้เป็นที่พักอาศัย ๔. สถานที่พักของวัดมีไม่เพียงพอ - ๕ - ๕. อาหาร เครื่องใช้ ส่วนหนึ่งขอรับบริจาคจากวัดนิโรธสังฆาราม อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ซึ่งคาดว่าจะมีพอเพียงภายใน ๒ สัปดาห์ เนื่องจากวัดวชิรปราการอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากชุมชนเมือง ไม่มีผู้มาบริจาค ๖. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มอบเงิน จำนวน ๕,๐๐๐.- บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายแก่วัดและประชาชนที่เดือดร้อน สภาพความต้องการ ๑. ประชาชนคาดว่าจะพักอยู่ที่วัดวชิรปราการ เพื่อรอดูเหตุการณ์ประมาณ ๒ สัปดาห์ ๒. ขอให้ทางราชการช่วยแก้ปัญหา โดยให้การรับประกันว่าจะดูแลคุ้มครองความปลอดภัยให้ได้หรือไม่ ๓. ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการกลับที่เดิม ไม่ต้องการไปอยู่ที่อื่นเพราะมีอาชีพอยู่แล้ว เช่น สวนยางพารา ที่นา ที่สวน ซึ่งเป็นอาชีพที่ทำปกติ และสามารถที่จะอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อน โดยขอให้รัฐบาลดูแลคุ้มครองให้ความปลอดภัยในความเป็นอยู่และการไปประกอบอาชีพก็เพียงพอแล้ว การบริหารภายในวัด ๑. มีหน่วยทหาร จำนวน ๓๐ นาย ตั้งกองกำลังอยู่ภายในวัด และลาดตระเวนในพื้นที่รอบ ๆ วัด ๒. ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำประปา วัดและหน่วยทหารแยกมิเตอร์จ่ายคนละส่วน ๓. ขอแก้ไขรายงานการดำเนินงาน ดังนี้ ตามรายงานเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ กรณีการเยี่ยมพระสงฆ์และทหารชุดคุ้มครองที่ได้รับบาดเจ็บจากการลอบวางระเบิด ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๙ ได้แก้ไขตามข้อเท็จจริง ดังนี้ - ๖ - ๑. ผู้แทนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ๒ รูป คือ ๑) พระบวรสุทธิวงศ์ ๒) พระครูสังฆสิทธิกร ๒. พระธรรมรัตนากร เจ้าคณะภาค ๑๘ ๓. พระราชกิตติโสภณ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ ๔. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๕. นางจุฬารัตน์ บุณยากร รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ๖. คณะข้าราชการจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และจังหวัดสงขลา ในการตรวจเยี่ยมได้สอบถามอาการและให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ ๑. ผู้แทนสมเด็จพระสังฆราชได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาท-สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระรูปของสมเด็จพระสังฆราช ถวายพระสงฆ์และให้ทหาร ๒. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ถวายปัจจัยที่สมเด็จพระสังฆราชประทานแก่พระสงฆ์รูปละ ๑๐,๐๐๐.- บาท รวม ๕ รูป เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐.- บาท พร้อมทั้งมอบกระเช้า จำนวน ๕ กระเช้า ถวายพระสงฆ์ และมอบเงินให้ทหาร ๒ นาย ๆ ละ ๑๐,๐๐๐.- บาท เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐.- บาท และช่วยเหลือ ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต ๑ นาย เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐.- บาท ในนามผู้แทนมหาเถรสมาคม จากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติภัย ๓. พระธรรมรัตนากร เจ้าคณะภาค ๑๘ ได้มอบปัจจัยจำนวนหนึ่งให้แก่พระสงฆ์ ๕ รูป และทหาร ๒ นาย /๔. พระราชกิตติโสภณ เลขานุการ - ๗ - ๔. พระราชกิตติโสภณ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ ได้มอบปัจจัยในนามผู้แทนมหาเถรสมาคม ถวายพระสงฆ์รูปละ ๑๐,๐๐๐.- บาท รวม ๕ รูป เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐.- บาท จากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติภัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการต่อไป
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF01192551_00267.pdf (244.72 kb)
จำนวนเข้าดู : 774
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00