มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 08/2550
มติที่ 207/2550
เรื่อง การขอยก วัดโพธิ์คำ (ร้าง) จังหวัดหนองคาย ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๘/๒๕๕๐ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง การขอยก วัดโพธิ์คำ (ร้าง) จังหวัดหนองคาย ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา เรียน ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๘/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๐ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดหนองคายได้มีหนังสือ ที่ นค ๐๐๓๐/๑๘๐๕๗ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๙ แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยก วัดโพธิ์คำ (ร้าง) จังหวัดหนองคาย ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดย พระพรหมสุธี ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่ หนตะวันออก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นางฐิติรัตน์ ลำดวน และนายมงคล ราชภิรมย์ ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุปดังนี้ วัดโพธิ์คำ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ บ้านลำดวน หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านว่าน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ที่ดินของวัดมีจำนวน ๑๒ ไร่ ตามเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส. ๓ เล่ม ๒๘ หน้า ๗๖ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ๔ หลัง หอกลอง ศาลาอเนกประสงค์ และห้องน้ำ ห้องสุขา ๒ หลัง จำนวน ๑๐ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๕ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดศรีวิไล ประมาณ ๒ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดตะเคียนทองเทพนิมิต ประมาณ ๒ กิโลเมตร /- ทิศตะวันออก ห่างจากวัดไทรเงินธรรมาราม - ๒ - - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดไทรเงินธรรมาราม ประมาณ ๕ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดเกาะแก้วขวัญเมือง ประมาณ ๕ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๘๐๐ คน การขอยก วัดโพธิ์คำ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะ-สงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับ จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถร-สมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยก วัดโพธิ์คำ (ร้าง) ตำบลบ้านว่าน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการต่อไป
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF01292551_00204.pdf (72.51 kb)
จำนวนเข้าดู : 729
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00