มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 12/2550
มติที่ 303/2550
เรื่อง การขอยก วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) จังหวัดสุรินทร์ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๒/๒๕๕๐ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง การขอยก วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) จังหวัดสุรินทร์ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา เรียน ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๒/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดสุรินทร์ได้มีหนังสือ ที่ สร ๐๐๓๐/ ๖๗๐ ลงวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๐ แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยก วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) จังหวัดสุรินทร์ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดย พระพรหมสุธี ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นางศรีรัตน์ ไชยศร นางฐิติรัตน์ ลำดวน และนายมงคล ราชภิรมย์ ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุปดังนี้ วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองพวง หมู่ที่ ๕ ตำบลหนองหลวง กิ่ง-อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ ที่ดินของวัดมีจำนวน ๕ ไร่ ๑ งาน ๔๕ ตารางวา ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ ๑๐๓๐๘ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ๒ หลัง โรงครัว และห้องน้ำ ห้องสุขา ๒ หลัง จำนวน ๑๐ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๕ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดอิสาณ ประมาณ ๒.๖ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดศรีสะอาด ประมาณ ๒ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ไม่มีวัดภายในระยะ ๑๐ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๗๐๐ คน - ๒ - เหตุผลกรณีมีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) เป็นที่วัดร้างมาก่อน ในอนาคตสามารถขยายให้ถึง ๖ ไร่ ได้ เพราะทางด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือเป็นที่ดินเอกชน การขอยก วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับ จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยก วัดบ้านหนองพวง (ร้าง) ตำบลหนอง-หลวง กิ่งอำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการต่อไป (นายกนก แสนประเสริฐ) ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF01292551_00300.pdf (71.81 kb)
จำนวนเข้าดู : 770
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00