• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 08/2551

มติที่ 183/2551

เรื่อง รายงานผลการปฏิบัติงานที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๘/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้อนุมัติให้ นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อนำสาร สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ไปอ่านในพิธีอัญเชิญพระพรหมเพื่อมอบให้แก่มณฑลหูหนาน และถวายการอุปถัมภ์อำนวยความสะดวกแก่คณะสงฆ์ที่ได้รับการอาราธนาไปในพิธีครั้งนี้ ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เสร็จเรียบร้อยแล้ว และขอรายงานผลการไปปฏิบัติราชการครั้งนี้ ดังนี้ ๑. การเดินทางไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้ สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ทางด้านพระพุทธศาสนาระหว่าง ๒ ประเทศ ที่มีมาช้านานแล้ว ซึ่งคณะสงฆ์ไทย โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ได้อัญเชิญพระพุทธรูป ขนาดใหญ่ไปประดิษฐานไว้ที่วัดในกรุงปักกิ่ง และมีการเยี่ยมเยือนไปมาระหว่างผู้แทน รัฐบาลและผู้แทนคณะสงฆ์ของทั้ง ๒ ประเทศ เป็นประจำ คณะผู้บริหารราชการจากมณฑลหูหนานได้ติดต่อผ่านทางร้อยตำรวจโท เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการอัญเชิญพระพรหมไปประดิษฐานไว้ที่มณฑลหูหนาน ณ วัดสี่ซี อำเภอกว้างเฉิน เมืองฉางซา ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนในมณฑลหูหนานได้สักการะ เนื่องจากคติความเชื่อของชาวจีนจะรู้จักและเคารพนับถือพระพรหมในฐานะที่เป็น “พระพุทธเจ้า ๔ หน้า” ไม่ใช่พระพรหมตามแบบพราหมณ์ - ฮินดู (จากสถิติจำนวนชาวจีนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย พบว่า รายการท่องเที่ยวที่จัดเป็นอันดับต้น ๆ คือ การไปชมวัดพระแก้ว และการไปสักการะพระพรหม ทางการมณฑลหูหนานเห็นว่า ยังมีชาวจีนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสเดินทางมาประเทศไทย) จึงควรหาวิธีอัญเชิญพระพรหมไปประดิษฐานเพื่อให้ประชาชนได้สักการะที่มณฑลต่าง ๆ ของจีน (เฉพาะที่มณฑลหูหนานมีประชากรประมาณ ๗๐ ล้านคน) ๒. คณะที่เดินทางไปครั้งนี้มีจำนวน ๔๒ รูป/คน ฝ่ายคณะสงฆ์ มีจำนวน ๑๖ รูป เป็นพระสงฆ์ส่วนกลาง ๖ รูป และพระสงฆ์ในส่วนภูมิภาค ๑๐ รูป โดยมี พระธรรมสิทธินายก วัดสระเกศ เป็นประธาน ในส่วนของฆราวาสมีจำนวน ๒๖ คน เป็นผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารองค์กรบริหารส่วนภูมิภาคและผู้แทนฝ่ายเอกชน โดยมี ร้อยตำรวจโท เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ เป็นหัวหน้าคณะ ๓. รัฐบาลกลางจีนและสมาคมพระพุทธศาสนาจีน ณ กรุงปักกิ่ง ได้รับทราบและให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มาก ได้สั่งการให้ทางการนครกวางโจว ดูแลให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้อย่างดี และประธานคณะสงฆ์จีนได้เดินทางจากปักกิ่งมาเป็นประธานรับมอบพระพรหมด้วยตนเอง ๔. พิธีการอัญเชิญและประดิษฐานพระพรหม จัดขึ้นในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ วัดสี่ซี เมืองฉางซา มีพระสงฆ์ฝ่ายจีนและพุทธ-บริษัทชาวจีนในมณฑลหูหนานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แน่นบริเวณวัด ในวันรุ่งขึ้น วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ หนังสือพิมพ์ประเทศจีนได้ลงภาพงานพิธีนี้ไว้ในคอลัมน์หน้าหนึ่งและรายละเอียดของข่าวลงไว้ในหน้า ๓ ๕. วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เวลา ๑๓.๓๐ น. จัดประชุมคณะผู้แทนฆราวาสฝ่ายไทยกับฆราวาสฝ่ายจีน การประชุมปรึกษาหารือระหว่างพระสงฆ์ฝ่ายไทยกับ พระสงฆ์ฝ่ายจีน โดยแยกการประชุมหารือออกเป็น ๒ กลุ่ม ณ ห้องประชุมชั้น ๑๕ โรงแรมจัสมิน ใช้เวลาประชุม ๓ ชั่วโมง ผลการประชุมดังนี้ ก. ฝ่ายพระสงฆ์ มีประธานใหญ่คณะสงฆ์จีน เป็นประธานฝ่ายจีน คณะ-สงฆ์ไทยมีพระธรรมสิทธินายกเป็นประธาน มีข้อสรุปในการหารือดังนี้ ๑. คณะสงฆ์ทั้งสองฝ่าย จะร่วมกันสร้างความสัมพันธ์สมานฉันท์ ระหว่าง ๒ ประเทศ ด้วยการจัดคณะแลกเปลี่ยนเยี่ยมเยือนกันระหว่างมณฑลหูหนานกับประเทศไทย ๒. มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านศาสนา ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ของจีน และของไทย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนการมอบทุนการศึกษาและงานวิจัยระหว่างกัน ๓. ควรมีการอัญเชิญพระพุทธรูป/พระพรหมจากประเทศไทยไปมอบถวายแก่วัดตามมณฑลต่าง ๆ ในประเทศจีนให้มากขึ้น ข. ฝ่ายฆราวาส ๑. ตกลงที่จะวางแผนร่วมกันว่า จะอัญเชิญพระพุทธรูปและพระพรหมจากประเทศไทยไปประเทศจีนเพื่อประดิษฐานไว้ประจำตามมณฑลต่าง ๆ ๒. มีการแลกเปลี่ยนบุคลากร โดยเฉพาะนักศึกษารุ่นใหม่ ๆ จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มาสอนภาษาจีนเยาวชนไทย โดยนักศึกษาจากจีนเหล่านั้นจะมีเวลาเรียนรู้เพิ่มเติมวุฒิการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในไทยได้ ๓. มีการแลกเปลี่ยนและเยี่ยมเยือนระหว่างกันให้มากขึ้น ๔. ควรใช้ศาสนา โดยเฉพาะหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเผยแผ่ให้ประชาชนรู้และปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณธรรมให้แพร่หลายไปทั่วโลก สรุปโดยภาพรวม การปฏิบัติงานครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่ายทุกประการ ทั้งนี้ ได้รับการดูแลต้อนรับจากฝ่ายรัฐบาลของประเทศจีน และสมาคมพระพุทธศาสนาแห่งจีนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะทางรัฐบาลจีนให้ความสำคัญต่องานครั้งนี้มาก ข้อเสนอ/แนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้ ๑. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรจัดทำโครงการเผยแผ่พระพุทธ-ศาสนา เพื่อความสัมพันธ์และสมานฉันท์สู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนประเทศในแถบยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ให้เป็นระบบต่อไป ๒. ควรจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ หน่วยงานเอกชน โดยมีที่ปรึกษาจากมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาดำเนินตามโครงการ ในข้อ ๑ การดำเนินการตามข้อ ๑ และ ๒ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาทให้ขยายกว้างขวางออกไป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF01792551_00183.pdf (1.17 mb)

จำนวนเข้าดู : 759

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved