มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 20/2551
มติที่ 419/2551
เรื่อง ขอยกที่ดิน (ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง) ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ศาสนสมบัติกลาง)
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๐/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย สำนักงานศาสนสมบัติ ได้ดำเนินการเรื่อง ขอยกที่ดิน (ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง) ให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ศาสนสมบัติกลาง) โดย จ่าสิบเอก สงวน และนางสังวิน สุวรรณวงษ์ สามีและภรรยา มีความประสงค์จะยกที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๔๓๐๔๑ และเลขที่ ๑๔๓๐๔๔ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร รวมเนื้อที่ ๑๘๓.๙๐ ตารางวา (ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง) ให้แก่สำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติ (ศาสนสมบัติกลาง) เพื่อประโยชน์แก่พระศาสนาสืบไป ในการนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มอบให้ นายฉลอง ช่วยธานี เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ ๓ และนายบุญยง พิทักษ์สังข์ เจ้าหน้าที่การศาสนา ๕ ไปร่วมดำเนินการกับ จ่าสิบเอก สงวน สุวรรณวงษ์ ผู้บริจาคที่ดินและผู้รับมอบอำนาจจาก นางสังวิน สุวรรณวงษ์ ให้ทำการแทนในการบริจาคที่ดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งสองได้เดินทางไปตรวจดูที่ดินและบริเวณข้างเคียงและได้จดทะเบียนให้และรับให้ที่ดิน (ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง) ให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ศาสนสมบัติกลาง) ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางขุนเทียน เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑ เสร็จเรียบร้อยแล้ว สรุปดังนี้ ๑. ราคาประเมินของที่ดินทั้งสองแปลง ๑) ที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๔๓๐๔๑ และเลขที่ ๑๔๓๐๔๔ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร รวมเนื้อที่ ๑๘๓.๙๐ ตารางวา ซึ่ง จ่าสิบเอก สงวน และนางสังวิน สุวรรณวงษ์ ได้ยื่นคำขอราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ใช้สำหรับเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑ เพื่อใช้ประกอบในการยกที่ดิน ให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ศาสนสมบัติกลาง) ซึ่งสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางขุนเทียน ประเมินราคาตารางวาละ ๑,๒๐๐.- บาท (หนึ่งพันสองร้อยบาทถ้วน) รวมทั้งสองแปลง เป็นเงิน ๒๒๐,๖๘๐.- บาท (สองแสนสองหมื่นหกร้อยแปดสิบบาทถ้วน) ๒) ผู้ให้และผู้รับทั้งสองฝ่ายได้ตกลงสัญญากัน ดังต่อไปนี้ ๒.๑ ผู้ให้ยอมยกที่ดินแปลงดังกล่าวข้างต้นทั้งแปลงให้แก่ผู้รับเป็นเด็ดขาดแต่วันทำสัญญานี้ไป ๒.๒ ให้ที่ดินไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ๒.๓ ได้ที่ดินมาโดยซื้อมาเกิน ๑๐ ปี และไม่ค้างชำระภาษีบำรุงท้องที่ ๒.๔ ผู้ให้ยกให้ด้วยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เพื่อประโยชน์แก่การ พระศาสนาสืบไป ๒. ที่ตั้งที่ดินและการเดินทาง ที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว อยู่ในแขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ห่างจากวัดบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ประมาณ ๗ กิโลเมตร การเดินทางไปต้องเดินทางด้วยเรือโดยสารหรือเรือเช่า คือ ลงเรือจากท่าเรือข้างวัดบางกระดี่ไปตามลำคลอง ซึ่งชาวบ้านใช้สัญจรไปมาแทนรถยนต์สามารถเดินทางไปถึงอ่าวกระเบนได้ สองข้างคลองมีต้นจากสลับกับบ้านพักอาศัยตั้งอยู่ห่าง ๆ กัน มีจุดสังเกต คือเสาไฟฟ้า ต้นเลขที่ ๕๙ จะถึงที่ดินทั้งสอง-แปลง บริเวณรอบ ๆ ชาวบ้านจะปลูกผัก เลี้ยงปลา เป็นอาชีพหลัก ห่างจากที่ดินประมาณ ๕๐๐ เมตร มีบ้านจัดสรรบางขุนเทียนวิลล่าหลายร้อยหลังคาเรือน และประมาณ ๑ กิโลเมตรจะถึงอ่าว-กระเบนมีรถยนต์เข้าถึงสะพานคนข้าม แต่ยังไม่มีสะพานให้รถยนต์ข้ามมาฝั่งนี้ได้ ทางราชการได้อนุมัติงบประมาณเพื่อสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างวัดบางกระดี่ถึงอ่าวกระเบน ระยะทางประมาณ ๑๑ กิโลเมตร ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่และถนนสายนี้จะตัดผ่านบริเวณที่ดินแปลงนี้ด้วย ๓. สภาพที่ดินเดิม นายวรการ วรนุช ได้ซื้อที่นาของชาวบ้านดั้งเดิม เนื้อที่ประมาณ ๑๐๐ ไร่เศษ แล้วจัดสรรที่ดินขายแปลงละประมาณ ๑๐๐ ตารางวา ในขณะนั้น (ปี ๒๕๑๕) ที่ดินบริเวณนี้เป็นท้องทุ่งนาที่รกร้างมีต้นไม้ยืนต้นอยู่ตามคันนาและหนองน้ำในบางส่วน ต่อมา น้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่ทั้งหมด แต่ผู้เป็นเจ้าของที่ดินทุกคนจะมีหลักเขตกำหนดตามโฉนดที่ดินที่แบ่งแยกเป็นแปลง ๆ เช่นเดียวกับที่ดินของจ่าสิบเอก สงวน และนางสังวิน สุวรรณวงษ์ ปัจจุบันชาวบ้านได้ใช้เป็นที่จับปลาเพื่อบริโภคและขาย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และขออนุโมทนา
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF02292551_00419.pdf (746.31 kb)
จำนวนเข้าดู : 805
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00