มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 22/2551
มติที่ 461/2551
เรื่อง วัดโพธิ์ทองเจริญ จังหวัดสุพรรณบุรี ขอกันเขตจัดประโยชน์
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๒/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มีหนังสือ ที่ พศ ๐๐๐๓/๓๒๓๑ ลงวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๔๖ แจ้งจังหวัดสุพรรณบุรีให้ทราบมติมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๘/๒๕๔๖ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๖ ซึ่งที่ประชุมลงมติให้วัดโพธิ์ทองเจริญ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี กันเขตที่ดินที่ตั้งวัดเป็นเขตจัดประโยชน์ น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๙๔๐ (บางส่วน) เนื้อที่ ๓๐๐ ตารางวา ให้องค์การบริหารส่วนตำบลพลับพลาไชยเช่าเพื่อเป็นสถานที่ก่อสร้างชุมชนบ้านขามใต้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ-ศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) ที่ประชุมมีมติให้จัดทำแผนผังรายละเอียดสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการจัดทำแผนผังสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ตามมติคณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) ปรากฏว่า ได้มีการก่อสร้างอาคารทั้งหมด จำนวน ๓ หลัง คือ อาคารสาธิต ขนาด ๑๐ x ๑๕ เมตร อาคารโรงอาหาร ขนาด ๖ x ๑๕ เมตร และ อาคารสุขาสาธารณะ ชาย - หญิง ขนาด ๕.๕๐ x ๕.๕๐ เมตร ซึ่งอาคารดังกล่าวปลูกสร้างผิดไปจากตำแหน่งที่มหาเถรสมาคมอนุมัติให้กันเขตจัดประโยชน์ โดยปลูกสร้างอาคารทั้งหมดไว้บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดและบดบังทัศนียภาพอาคารเสนาสนะภายในวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลและสอบถามเหตุผลจากวัดโพธิ์ทองเจริญในกรณีดังกล่าวแล้ว ปรากฏผลการตรวจสอบดังนี้ ๑. องค์การบริหารส่วนตำบลพลับพลาไชยได้ชี้แจงการปลูกสร้างอาคารก่อนที่จะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า หากทำการก่อสร้างล่าช้าจะทำให้งบ-ประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น (JBIC) ถูกตัดออกไป ๒. กรณีที่ปลูกสร้างผิดจากตำแหน่งที่มหาเถรสมาคมอนุมัติให้กันเขตจัดประโยชน์ วัดโพธิ์ทองเจริญชี้แจงว่า การก่อสร้างอาคารเพื่อเป็นศูนย์รวมการค้าขายภายในชุมชนจึงก่อสร้างในบริเวณที่สังเกตเห็นได้ง่ายในพื้นที่ด้านหน้าวัด ซึ่งเป็นที่พื้นที่โล่งไม่มีสิ่งก่อสร้างบดบังทัศนียภาพ หากปลูกสร้างอยู่ด้านหลังจะทำให้แบ่งเป็น ๒ ส่วน โดยมีศูนย์กลางชุมชนอยู่ตรงกลาง ทำให้วัดขาดความเป็นเอกภาพ ส่วนบริเวณที่มหาเถรสมาคมอนุมัตินั้น ทางวัดมีโครงการที่จะทำการก่อสร้างสถูปเจดีย์ในอนาคตอันใกล้นี้ จึงได้ทำการก่อสร้างอาคารชุมชนบริเวณหน้าวัดดังกล่าว ๓. จากการตรวจสอบบริเวณอาคารที่ทำการก่อสร้างปรากฏว่า มีการจัดวางอาคารเป็นรูปมุมฉาก วางชิดกำแพงด้านข้างวัด มีลานโล่งอยู่ด้านหน้าอาคาร เมื่อมองจากถนนด้านหน้าวัดจะเห็นว่าไม่บดบังทัศนียภาพของวัดแต่อย่างใด หากมหาเถรสมาคมจะอนุมัติให้เปลี่ยนบริเวณก่อสร้างมาใช้บริเวณที่ก่อสร้างในปัจจุบันได้ เห็นควรกำหนดไม่ให้มีการก่อสร้างใด ๆ เพิ่มเติมขึ้นอีก โดยให้เป็นลานอเนกประสงค์ตามสภาพปัจจุบันเนื่องจากอาจจะบดบังทัศนียภาพของวัดได้ ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) ครั้งที่ ๑๖/๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๗ ที่ประชุมมีมติขอทราบ รายละเอียดเพิ่มเติมรวม ๕ ข้อ คือ ๑. สถานะของเจ้าอาวาส ๒. การก่อสร้างอาคารชุมชน วัดอนุญาตให้ก่อสร้างหรือองค์การบริหารส่วนตำบล-พลับพลาไชยก่อสร้างเอง ๓. ให้บันทึกภาพ วิ.ดี.โอ. บริเวณอาคารที่ก่อสร้างโดยรอบ ๔. รายละเอียดและวัตถุประสงค์เงินสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น (JBIC) ๕. หากจะให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจะทำได้หรือไม่ ฝ่ายใดเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรื้อถอน ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๙/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๐ สรุปว่า กรณีวัดโพธิ์ทองเจริญไม่ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยจึงมอบเจ้าคณะภาค ๑๔ รับไปพิจารณา บัดนี้ เจ้าคณะภาค ๑๔ และเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ได้สอบสวนข้อเท็จจริงและได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้วเห็นว่า พระอธิการสราวุธ สหสฺโช เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง-เจริญไม่ได้มีเจตนาฝ่าฝืนข้อคำสั่งมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๘/๒๕๔๖ มติที่ ๑๔๙/๒๕๔๖ เรื่อง วัดโพธิ์ทองเจริญ จังหวัดสุพรรณบุรี ขอกันเขตจัดประโยชน์ สมควรว่ากล่าวตักเตือนให้สังวรระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย กองพุทธศาสนสถาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานศาสนสมบัติและเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ทำการตรวจ-สอบสถานที่จริงบริเวณวัดโพธิ์ทองเจริญ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี แล้ว มีความเห็นประกอบการพิจารณาดังนี้ ๑. บริเวณที่องค์การบริหารส่วนตำบลพลับพลาไชยขอเช่าเพื่อเป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศูนย์กลางชุมชนบ้านขามใต้ ได้ก่อสร้างอาคารเป็นรูปมุมฉาก วางชิดกำแพงด้านข้างวัด มีลานโล่งอยู่ด้านหน้า เมื่อมองจากถนนด้านหน้าวัดจะเห็นว่าไม่บดบังทัศนียภาพของวัดแต่อย่างใด ๒. หากมหาเถรสมาคมพิจารณาแล้วอนุมัติให้เปลี่ยนบริเวณที่ขอกันเขตจัดประโยชน์เดิมมาเป็นบริเวณที่ก่อสร้างอาคารศูนย์กลางชุมชนในปัจจุบันได้ เห็นควรกำหนดไม่ให้มีการก่อสร้างใด ๆ เพิ่มเติมขึ้นอีก โดยให้เป็นลานอเนกประสงค์ตามสภาพปัจจุบัน เนื่องจากอาจจะบดบังทัศนียภาพของวัดได้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอคณะ-กรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) พิจารณาก่อนนำเสนอมหาเถร-สมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : scan0016_461.pdf (164.2 kb)
จำนวนเข้าดู : 845
ปรับปรุงล่าสุด : 16 กันยายน พ.ศ. 2552 14:05:46
ข้อมูลเมื่อ : 16 กันยายน พ.ศ. 2552 14:05:46