มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 28/2551
มติที่ 600/2551
เรื่อง การขอยก วัดหนองกุง (ร้าง) จังหวัดหนองคาย ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๘/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดมหาสารคามได้มีหนังสือ ที่ มค ๐๐๓๐/๘๖๗๙ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑ แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยก วัดหนองกุง (ร้าง) ตำบลวังไชย อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดย พระพรหมสุธี ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นางศรีรัตน์ ไชยศร นางฐิติรัตน์ ลำดวน และนายมงคล ราชภิรมย์ ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุปดังนี้ วัดหนองกุง (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองกุงสว่าง หมู่ที่ ๘ ตำบลวังไชย อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ที่ดินของวัดมีจำนวน ๔ ไร่ ๑ งาน ๗๒ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๖๖๕๗ อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ วิหาร กุฏิสงฆ์ ๔ หลัง และห้องน้ำ ๒ หลัง จำนวน ๘ ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๔ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดพงโพด ประมาณ ๖ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดหัวหนอง ประมาณ ๒ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดวรินทราวาส ประมาณ ๖ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดวังปลาโด ประมาณ ๖ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๒,๐๐๐ คน เหตุผลกรณีมีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ ประชาชนในหมู่บ้านหนองกุงสว่าง คือ นางหลิ่ง จำวัน นางทองสาย มูลดี และนางเบ้า สิงห์ศรี ได้บริจาคที่ดินซึ่งติดกับวัดหนองกุง (ร้าง) เนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ เมื่อวัดหนองกุง (ร้าง) ได้รับการยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาแล้ว จึงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้กับวัดหนองกุง (ร้าง) ต่อไป การขอยก วัดหนองกุง (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับ จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และพระพรหมเวที ผู้พิจารณากลั่นกรองการขอยกวัดร้างฯ ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยก วัดหนองกุง (ร้าง) ตำบลวังไชย อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พร้อมทั้งให้เจ้าอาวาสขวนขวายให้มีพระภิกษุอยู่จำพรรษามากกว่า ๔ รูป เพื่อจะได้ทำสังฆกรรมบางประเภทตามที่พระวินัยกำหนดจำนวนพระภิกษุไว้ได้
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c15-28191251_600.pdf (45.26 kb)
จำนวนเข้าดู : 671
ปรับปรุงล่าสุด : 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552 10:59:14
ข้อมูลเมื่อ : 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552 10:59:14