มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 20/2553
มติที่ 444/2553
เรื่อง การขอยก วัดโบสถ์ (ร้าง) จังหวัดนครราชสีมา ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๐/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดนครราชสีมาได้มีหนังสือ ที่ นม ๐๐๓๐/๖๒๙ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๓ แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยก วัดโบสถ์ (ร้าง) บ้านริมบึง หมู่ที่ ๑๗ ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดย พระพรหมสุธี ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติ คือ นางฐิติรัตน์ ลำดวน นางสาลี่ รัตนวรรณวิมล และนายชาตรี เอี่ยมอ่อน ได้ไป ตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุปดังนี้ วัดโบสถ์ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ บ้านริมบึง หมู่ที่ ๑๗ ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ที่ดินของวัดมีจำนวน ๓๓ ไร่ ๙ ตารางวาเศษ ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๙๖๓๘ อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ ศาลา-ปฏิบัติธรรม หอสวดมนต์ โรงครัว กุฏิสงฆ์ ๖ หลัง และห้องน้ำ ๓ หลัง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๗ รูป สามเณร ๒ รูป ระยะห่างจากวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง - ทิศเหนือ ห่างจากวัดสุชัยคณาราม ประมาณ ๘ กิโลเมตร - ทิศใต้ ห่างจากวัดบุ่งลำใย ประมาณ ๙ กิโลเมตร - ทิศตะวันออก ไม่มีวัดในระยะ ๑๐ กิโลเมตร - ทิศตะวันตก ห่างจากวัดสีคิ้วคณาราม ประมาณ ๕ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑,๕๐๐ คน การขอยก วัดโบสถ์ (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับจนถึง เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และ พระพรหมเวที ผู้พิจารณากลั่นกรองการขอยกวัดร้างฯ ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยก วัดโบสถ์ (ร้าง) ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c30-20300853_444.pdf (47.38 kb)
จำนวนเข้าดู : 717
ปรับปรุงล่าสุด : 22 กันยายน พ.ศ. 2553 11:10:36
ข้อมูลเมื่อ : 22 กันยายน พ.ศ. 2553 11:10:36