ครั้งที่ 25/2553

มติที่ 565/2553

เรื่อง วัดโบสถ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอกันเขตจัดประโยชน์

ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๕/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีหนังสือ ที่ อย ๐๐๓๐/๓๗๗๔ ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓ แจ้งว่า วัดโบสถ์ ตำบลเจ้าปลุก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความประสงค์ขอกันเขตจัดประโยชน์ที่ดินที่ตั้งวัด ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๘๐๐๘ เนื้อที่ประมาณ ๓๔ ไร่ ๒ งาน ๘๐ ตารางวา ให้ นายชยพล อิ่มเอิบ เช่าบางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒ งาน เพื่อก่อสร้างโรงสีข้าว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย กองพุทธศาสนสถาน ได้ตรวจสอบสถานที่จริงบริเวณวัดโบสถ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนคร-ศรีอยุธยาแล้ว ปรากฏว่า บริเวณที่ดินที่ตั้งวัดมีโรงเรียนวัดโบสถ์ บ้านพักครู สำนักงานเทศบาลตำบลโรงช้าง โรงผลิตน้ำประปาเทศบาล และประชาชน ปลูกบ้านเรือนเป็น-จำนวนมาก จึงได้แนะนำให้ทางวัดขอกันเขตจัดประโยชน์ในคราวเดียว บัดนี้ วัดโบสถ์ได้จัดทำแผนผังวัดใหม่ทั้งหมดแล้ว และผู้ขอกันเขตจัดประโยชน์มีเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ จึงมีความเห็นสรุปเพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้ ๑. วัดโบสถ์มีที่ดินที่ตั้งวัดประมาณ ๓๔ ไร่ ๒ งาน ๘๐ ตารางวา ขอกัน-เขตจัดประโยชน์ แบ่งเป็น ๕ แปลง ดังนี้ ๑.๑ แปลงที่ ๑ เนื้อที่ประมาณ ๑ ไร่ ๓ งาน ๙ ตารางวา เป็นบ้านเรือนประชาชน ๑.๒ แปลงที่ ๒ เนื้อที่ประมาณ ๒ งาน ๒๗ ตารางวา เป็นบ้านเรือนประชาชนและโรงผลิตน้ำประปาเทศบาล ๑.๓ แปลงที่ ๓ เนื้อที่ประมาณ ๑๓ ไร่ ๑ งาน ๔ ตารางวา เป็น- บ้านเรือนประชาชนและโรงสีข้าว ๑.๔ แปลงที่ ๔ เนื้อที่ประมาณ ๑๒ ไร่ ๒ งาน ๓๐ ตารางวา เป็น- โรงเรียนวัดโบสถ์ สำนักงานเทศบาลโรงช้าง และบ้านเรือนประชาชน ๑.๕ แปลงที่ ๕ เนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ ๑ งาน ๗๒ ตารางวา เป็น- บ้านพักครูและบ้านเรือนประชาชน รวมเนื้อที่ขอกันเขตจัดประโยชน์ทั้งหมดประมาณ ๒๓ ไร่ ๒ งาน ๖๖ ตารางวา คงเหลือเนื้อที่ตั้งวัดประมาณ ๑๑ ไร่ ๑๔ ตารางวา ๒. จากการตรวจสอบสถานที่จริงเห็นว่า บริเวณแปลงที่ ๑ แปลงที่ ๒ และแปลงที่ ๕ บางส่วน ควรคืนเนื้อที่ในส่วนนี้ให้กับทางวัด เพราะบริเวณดังกล่าวบดบัง ทัศนียภาพของวัด และเพื่อการรองรับการก่อสร้างอาคารเสนาสนะของวัดในอนาคต สำหรับโรงผลิตน้ำประปาและหอแท็งก์น้ำในแปลงที่ ๒ เมื่อมีการเสื่อมสภาพแล้วให้ไปก่อสร้างใหม่ในแปลงที่ ๓ จะเหมาะสมกว่า ๓. จากข้อ ๒ เห็นควรเพิ่มเนื้อที่ในแปลงที่ ๓ ประมาณ ๒ งาน ๕ ตารางวา จากเดิมเนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ ๑ งาน ๕ ตารางวา เป็นเนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ ๓ งาน ๔๓ ตารางวา เพื่อให้ประชาชนในแปลงที่ ๑ และแปลงที่ ๒ ย้ายมาปลูกบ้านเรือนทดแทนที่เก่า ส่วนในแปลงที่ ๕ จากเดิมเนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ ๑ งาน ๗๒ ตารางวา สมควรให้ปรับลดเนื้อที่ส่วนที่บดบังภูมิทัศน์ทางเข้าด้านข้าง ลดเนื้อที่ลงประมาณ ๓ งาน ๓๙ ตารางวา คงเหลือเนื้อที่แปลงที่ ๕ ประมาณ ๔ ไร่ ๒ งาน ๓๓ ตารางวา ๔. เมื่อมีการกันเขตจัดประโยชน์ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย กองพุทธศาสนสถาน เสนอ บริเวณที่ขอกันเขตทั้งหมดจะมีประมาณ ๒๑ ไร่ ๖ ตารางวา วัดคงเหลือเนื้อที่เพิ่มขึ้นประมาณ ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๗๔ ตารางวา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบ-ประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) เพื่อพิจารณา ในการประชุมครั้งที่ ๑๙/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๓ ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติควรอนุมัติ และให้นำเสนอ มหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการพิจารณางบ-ประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) เสนอ (565/2553)

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : c23-25101153_565.pdf (61.4 kb)

จำนวนเข้าดู : 619

ปรับปรุงล่าสุด : 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 13:21:34

ข้อมูลเมื่อ : 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 13:21:34