มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 28/2553
มติที่ 642/2553
เรื่อง ผู้ใช้ชื่อว่า พระมโนธรรม รักอโศก หมิ่นประมาท สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม และคณะสงฆ์ไทย
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๘/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ด้วยมีผู้ใช้ชื่อว่า พระมโนธรรม รักอโศก หรือ VEN. Hui Fu Tian อ้างว่าเป็นพระในนิกายวัชรยาน (มหายาน) ที่อยู่ตามเอกสาร คือ ๑) มูลนิธิชีวิตประเสริฐ ๖๘/๔ ตรอกเสถียร ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ๒) เลขที่ ๕๑/๖๖ หมู่ที่ ๙ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ๓) สำนักสงฆ์บ้านพรุ ถนนชุมแสง ๗ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ ๔) ตู้ ปณ. ๑๔๙ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ๙๐๑๑๐ ได้มีหนังสือถึงสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ หน่วยงาน และบุคคลต่าง ๆ กล่าวหา สมเด็จพระสังฆราช และกรรมการมหาเถรสมาคม ประพฤติไม่เหมาะสมหลายประการ เช่น สมเด็จ- พระญาณสังวร ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ไม่ชอบด้วยกฎหมายสงฆ์ การแต่งตั้งสมเด็จพระญาณสังวรให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชจึงเป็นการแต่งตั้งที่มิชอบ และมีข้อความตอนหนึ่งว่า เมื่อการดำรงตำแหน่งของสมเด็จพระญาณสังวรไม่ชอบ คำสั่งแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคมก็ไม่ชอบ เพราะกรรมการมหาเถรสมาคม ก็มีโทษสมบัติเหมือนกับสมเด็จพระญาณสังวร เป็นต้น รายละเอียดตามสำเนาเอกสารที่แนบถวายในที่ประชุม ทั้งนี้ การกล่าวหาดังกล่าวจะเข้าข่ายดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและความ-มั่นคงของสถาบันศาสนาด้วยหรือไม่ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช และข้อกล่าวหาครอบคลุมถึงสถาบันสงฆ์ในพระพุทธศาสนาด้วย ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้สมเด็จ-พระสังฆราชและกรรมการมหาเถรสมาคมจะมีพรหมวิหารธรรมสูง แต่สำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่อาจที่จะละเลยหน้าที่ในฐานะที่จะต้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาทุกภาคส่วนได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ใช้นามว่า พระมโนธรรม รักอโศก ที่สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ซึ่งถือว่าเป็นการใส่ความคณะสงฆ์ ตามมาตรา ๔๔ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ความว่า ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์ หรือคณะสงฆ์อื่น อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือแตกแยก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๓๒๘ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ความว่า มาตรา ๓๒๖ ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๓๒๘ ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสารภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏ ไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท ในการกล่าวโทษผู้ใช้นามว่า พระมโนธรรม รักอโศก ดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้แจ้งว่า กรณีความผิดดังกล่าวมีผู้เสียหายที่แท้จริง คือ สมเด็จพระสังฆราช และกรรมการมหาเถรสมาคมแต่ละรูป ดังนั้น ควรให้กรรมการมหาเถรสมาคมซึ่งเป็นผู้เสียหายมอบอำนาจให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ พระมโนธรรม รักอโศก ให้ชัดแจ้ง ทั้งนี้ เพื่อจะได้ทราบความประสงค์ของผู้เสียหายที่แท้จริงนั้น มีความ-ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ใช้นามว่า พระมโนธรรม รักอโศก หรือไม่อย่างไร เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด อนึ่ง ความผิดฐานหมิ่นประมาทเป็นความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหาย จะต้องทำการร้องทุกข์ภายในเวลา ๓ เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ถึงตัวผู้กระทำความผิดนั้น มิฉะนั้น จะขาดอายุความ ตามที่บัญญัติไว้มาตรา ๙๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติว่า ความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่ วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการตามกฎหมายต่อไป(642/2553)
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c29-28201253_642.pdf (72.84 kb)
จำนวนเข้าดู : 1504
ปรับปรุงล่าสุด : 25 มกราคม พ.ศ. 2554 14:55:36
ข้อมูลเมื่อ : 25 มกราคม พ.ศ. 2554 14:55:36