มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 06/2554
มติที่ 155/2554
เรื่อง ขอให้พิจารณาการใช้คำว่า วัด นำหน้าชื่อของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๖/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนาได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ๙๕๗/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ แจ้งว่า นายอดิศักดิ์ วรรณสิน นายกสมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์ ขอให้คณะอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนา ในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม พิจารณาตรวจสอบเรื่องการใช้คำว่า วัด รวมกับชื่อของโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัด ทุกวัด ทั่วประเทศ และการเพิ่มรายการข้อมูลด้านศาสนาระบุลงในบัตรประจำตัวประชาชน ในการนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องดังกล่าวมีความ-สำคัญต่อความมั่นคงของประเทศชาติ อันสืบเนื่องตั้งแต่อดีต วัดเป็นศูนย์กลางสังคมในทุก ๆ ด้าน เช่น การศึกษา การแพทย์ และเวทีประชาธิปไตย โดยเฉพาะด้านการศึกษา พระสงฆ์ มีบทบาทในการบริหารจัดการศึกษา การจัดตั้งโรงเรียนภายในวัด เป็นครูใหญ่ของโรงเรียน เช่น เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง) อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นครูใหญ่ โรงเรียนมหาวชิราวุธ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เจ้าอาวาสวัดราชบุรณะ (วัดเลียบ) กรุงเทพมหานคร เป็นครูใหญ่ เป็นต้น เห็นได้ว่า วัดกับโรงเรียนคู่กันในสังคมไทย จึงได้ชื่อว่า บวร คือ มี บ้าน (บ) วัด (ว) และโรงเรียน (ร) ได้บูรณาการร่วมกัน มีพระสงฆ์เป็น- เจ้าอธิการในการจัดการศึกษา วัดและพระสงฆ์ไทยมีคุณูปการต่อการสร้างชาติ และการพัฒนาเยาวชนของชาติอย่างอเนกอนันต์ แต่ต่อมาได้มีนักการศึกษาหัวสมัยใหม่หลายคนที่ได้หลงลืมความดีของบรรพชนหรือปูชนียบุคคล ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดแผนการศึกษาของชาติ แต่ได้พยายามตัดรากเหง้าแห่งความมั่นคงของชาติหรือชุมชน ด้วยการตัดคำว่า วัด ออกจากสาระบบของการศึกษา เห็นว่าเป็นเรื่องล้าหลัง ไม่ทันสมัย แต่ไปส่งเสริมให้โรงเรียนเอกชนของศาสนาอื่นให้ใช้คำนำหน้าของชื่อนักบวชทางศาสนาแทน หรือนำหน้าโรงเรียน แต่ถ้าเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์ได้มีนโยบายให้ตัดคำว่า วัด ออกไป เรื่องดังกล่าวส่อให้เห็นว่ามีเป้าหมายลดบทบาทของวัดหรือพระสงฆ์ไทยให้หมดไป หรือหายไปจากสังคมไทย ถือว่าเป็นการบ่อนทำลายสถาบันชาติ และสถาบันพระพุทธศาสนา ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ประชุมได้ศึกษาเหตุผล ข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ มีมติให้ดำเนินการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติและรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้การบูรณาการตามหลัก บวร คงคู่กับสังคมไทยต่อไป และขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำมติที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ดังกล่าว เสนอมหาเถรสมาคม ดังนี้ ๑.ให้เจ้าอาวาสหรือพระสังฆาธิการซึ่งมีโรงเรียนตั้งอยู่ในวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ ให้ใช้ชื่อวัดหรือที่เกี่ยวข้องกับวัด หรือเจ้าอธิการผู้มีคุณูปการต่อโรงเรียนนำหน้า เช่น โรงเรียนวัดสระเกศ หรือโรงเรียนมัธยมวัดดุสิตาราม หรือโรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เป็นต้น ๒.ให้เจ้าอาวาสหรือพระสังฆาธิการได้กำกับดูแลเกียรติภูมิของวัดกับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาอย่างมีศักดิ์ศรี ๓.ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขระเบียบการใช้ชื่อโรงเรียนโดยให้นำชื่อวัดมานำหน้าโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตามฐานานุรูปหรือฐานานุศักดิ์ ตามที่มีมาแล้วในอดีต สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา จึงขอประทานเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามมติทั้ง ๓ ข้อ(155/2554)
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c17-06280254_155.pdf (55.15 kb)
จำนวนเข้าดู : 594
ปรับปรุงล่าสุด : 24 มีนาคม พ.ศ. 2554 14:00:10
ข้อมูลเมื่อ : 24 มีนาคม พ.ศ. 2554 14:00:10