มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 28/2545
มติที่ 456/2545
เรื่อง การมอบนโยบายแก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๘/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ..... เรื่อง การมอบนโยบายแก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๘/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้กำกับดูแลงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๕ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เช่น นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายธำรง อมโร รองอธิบดีกรมการศาสนา รักษาราชการแทนรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนัก/กอง/สำนักงาน และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังนโยบาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการสนองงานคณะสงฆ์ สรุปได้ดังนี้ ๑. การช่วยเหลือวัดและพระภิกษุสามเณรที่ประสบอุทกภัย ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องเร่งดำเนินการ โดยให้สำรวจความเสียหายของวัดที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ กำหนดมาตรการการช่วยเหลือ และมาตรการอื่น ๆ ที่จะสนับสนุนการดำเนินการ - ๒ - ๒. การปฏิรูประบบราชการตามนโยบายรัฐบาล ต้องแบ่งภารกิจระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกับกรมการศาสนาให้ชัดเจน การประชาสัมพันธ์บทบาทและภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แก่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน เช่น สัญลักษณ์ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สถานที่ตั้ง การติดต่องาน เพื่อมิให้เกิดความสับสนแก่ทุกฝ่าย ๓. การสร้างพุทธศาสนิกชนที่ดีตามหลักธรรมของศาสนา คือ เป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาดี ปฏิบัติดี สามารถนำความรู้ไปเผยแผ่แก่ผู้อื่นได้ รวมทั้งการถวายการอารักขาแก่พระพุทธศาสนา ด้วยวิธีการต่าง ๆ ๔. การเตรียมการเพื่อสนองงานคณะสงฆ์ในส่วนภูมิภาคอย่างมีระบบ ทั้งนี้ เพราะสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติยังไม่มีหน่วยงานที่สนองงานคณะสงฆ์ที่ชัดเจน ๕. การปรับปรุงกฎหมาย กฎ คำสั่ง ระเบียบ เป็นต้น ที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ ให้สอดคล้องกับการปฏิรูประบบราชการ โดยเน้นให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่เดิมให้ครบทุกมาตรา เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่กรองงานให้กับมหาเถรสมาคม และแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาเป็นที่ปรึกษาถวายคำแนะนำแก่คณะกรรมการ เป็นต้น โดยอาศัยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้เป็นประโยชน์ ก่อนที่จะมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับใหม่ ๖. การปรับปรุงพุทธมณฑลให้เป็นสถานที่สำคัญของประเทศ เช่น เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งอนุรักษ์มรดกไทย เป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมทางพระพุทธ-ศาสนา ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ๗. การพัฒนาบุคลากรทางพระพุทธศาสนา คือ พระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร โดยเน้นให้มีความรู้ทางโลกที่จำเป็นต่อการบริหารงานคณะสงฆ์ด้วย เช่น ความรู้เกี่ยวกับการบริหารและการจัดการ เป็นต้น - ๓ - ๘. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของพระพุทธศาสนาให้ทันสมัย มีข้อมูล สารสนเทศที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน เชื่อถือได้ สามารถนำมาใช้ประกอบการบริหารและการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีว่า ทุกกระทรวง/ทบวง/กรม จะต้องมี Website เป็นของตัวเอง เพื่อให้บริการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคม เพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และตั้งข้อสังเกตว่า ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งสำรวจวัดที่ประสบอุทกภัย และให้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยในเบื้องต้นเน้นด้านเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ผ้าห่มกัน-หนาว เป็นต้น โดยการขอรับบริจาคจากวัดต่าง ๆ ส่วนการช่วยเหลือในระยะยาวนั้น ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมอบหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องพิจารณานำเงินงบประมาณอุดหนุนบูรณะวัด ที่ได้รับในปีงบประมาณ ๒๕๔๖ มาช่วยเหลือวัดที่ประสบอุทกภัย โดยมีผู้แทนมหาเถรสมาคมร่วมเป็นกรรมการพิจารณาด้วย
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00192551_00117.pdf (120.29 kb)
จำนวนเข้าดู : 1222
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00