มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 20/2555
มติที่ 497/2555
เรื่อง ขอความเห็นชอบรวมวัดคู (ร้าง) กับวัดมะนาวหวานที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเดียวกัน
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๐/๒๕๕๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง ขอความเห็นชอบรวมวัดคู (ร้าง) กับวัดมะนาวหวานที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเดียวกัน เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๐/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า พระธรรมโกศาจารย์ เจ้าคณะภาค ๒ ได้มีลิขิต ที่ จภ. ๕๕/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ว่า ได้ส่งรายงานการขอรวมวัดคู (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๓ ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง กับวัดมะนาวหวานที่มีพระภิกษุ อยู่จำพรรษา ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ซึ่งมีอาณาเขตใกล้กัน เป็นวัดเดียวกัน เพื่อดูแลศาสนสมบัติและป้องกันการบุกรุกพื้นที่อันอาจจะเกิดขึ้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับวัดมะนาวหวาน แล้ว ปรากฏว่า วัดมะนาวหวาน ได้รับการประกาศตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๐ มีเนื้อที่ตั้งวัดจำนวน ๔๔ ไร่ ๔๔ ตารางวา และโฉนดที่ดินของวัดคู (ร้าง) แล้ว ปรากฏว่า วัดทั้งสองมีพื้นที่ตั้งวัดติดกัน โดยมีคลองม่วงเตี้ยหรือคลองบางแพรกคั่นระหว่างวัดทั้งสอง ดังนี้ ๑. วัดมะนาวหวาน ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๘๕๘๓ มีเนื้อที่ประมาณ ๔๔ ไร่ ๔๔ ตารางวา มีเสนาสนะประกอบด้วย กุฏิสงฆ์ ๘ ห้อง ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ ฌาปนสถาน และห้องน้ำ ๔ หลัง เรือนแถว ๒ หลัง ๒. วัดคู (ร้าง) ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๓๙๐๖ มีเนื้อที่ประมาณ ๙ ไร่ ๑ ตารางวา มีเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ ศาลา โรงละคร และห้องน้ำเรือนแถว ๖ ห้อง - ๒ - พระราชรัตนสุธี ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนกลาง นางสาลี่ รัตนวรรณวิมล และ นายธีระ ตั้งสุวรรณ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ไปตรวจสภาพวัดทั้งสองแล้ว เห็นสมควรรวมเป็นวัดเดียวกันได้ เมื่อรวมวัดทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วจะมีเนื้อที่ทั้งหมด ๕๓ ไร่ ๔๕ ตารางวา โบราณสถานที่มีอยู่ก็จะได้รับการดูแล อีกทั้งยังเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และจะใช้ชื่อว่า วัดคูมะนาวหวาน การขอความเห็นชอบรวมวัดคู (ร้าง) กับวัดมะนาวหวานที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเดียวกัน ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองตามลำดับ จนถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) และเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับจนถึงเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และพระพรหมมุนีผู้พิจารณากลั่นกรองการขอรวมวัดแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถร-สมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้รวมวัดคู (ร้าง) กับวัดมะนาวหวาน ที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเดียวกันได้ตามเสนอ จึงเรียนมาเพื่อโปรดมอบกองพุทธศาสนสถานดำเนินการต่อไป
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : c27-20100955_497.pdf (60.17 kb)
จำนวนเข้าดู : 955
ปรับปรุงล่าสุด : 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555 16:16:52
ข้อมูลเมื่อ : 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555 16:16:52