มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 27/2545
มติที่ 433/2545
เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการที่สนองงานคณะสงฆ์
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๗/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ..... เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการที่สนองงานคณะสงฆ์ ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๗/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการปฏิรูปส่วนราชการ โดยได้มีการ ปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการระดับกระทรวง/ทบวง จาก ๑๔ กระทรวง/ทบวง เป็น ๒๐ กระทรวง/ทบวง และหน่วยงานระดับกรม/สำนัก/สำนักงาน จาก ๑๓๖ กรม/สำนัก/สำนักงาน เป็น ๑๔๒ กรม/สำนัก/สำนักงาน ดังเป็นที่ทราบแล้ว นั้น ในส่วนราชการที่รับสนองงานคณะสงฆ์ ก็ได้มีการปรับปรุงแบ่งส่วนราชการใหม่ด้วย คือ ๑. ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓๗ กำหนดให้กระทรวงวัฒนธรรม มีส่วนราชการ ดังนี้ (๑) สำนักงานรัฐมนตรี (๒) สำนักงานปลัดกระทรวง (๓) กรมการศาสนา (๔) กรมศิลปากร (๕) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (๖) สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย มาตรา ๔๖ ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง มีดัง ต่อไปนี้ (๑) สำนักราชเลขาธิการ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเลขานุการในพระองค์ พระมหากษัตริย์ - ๒ - (๒) สำนักพระราชวัง มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการพระราชวัง ตลอดจน ดูแลรักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ของพระมหากษัตริย์ (๓) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับกิจการพระ-พุทธศาสนา ส่งเสริมพัฒนาพระพุทธศาสนา และดูแลรักษาศาสนสมบัติ ตามกฎหมายว่าด้วย คณะสงฆ์ และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (๔) สำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา (๕) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัย และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (๖) ราชบัณฑิตยสถาน มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการค้นคว้า วิจัย และเผยแพร่ ทางวิชาการ และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (๗) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบ เรียบร้อย และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (๘) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการ ดำเนินการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และคณะ-กรรมการธุรกรรม และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (๙) สำนักงานอัยการสูงสุด มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาทั้งปวง ดำเนินคดีแพ่ง และให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ส่วนราชการตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๗) มีฐานะเป็นกรม อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ส่วนราชการตามวรรคหนึ่ง (๘) และ (๙) มีฐานะเป็นกรม อยู่ในบังคับบัญชาของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ๒. ตามพระราชกฤษฎีกา ได้แก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ - ๓ - มาตรา ๓๘ ในพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๒๗ ให้แก้ไขคำว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็น นายกรัฐมนตรี คำว่า อธิบดีกรมการศาสนา เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคำว่า กรม การศาสนา เป็น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาตรา ๔๒ ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ให้แก้ไขคำว่า กระทรวง ศึกษาธิการ และ กรมการศาสนา เป็น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คำว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็น นายกรัฐมนตรี และคำว่า อธิบดีกรมการศาสนา เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาตรา ๘๕ ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ ให้แก้ไขคำว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็น นายกรัฐมนตรี และ คำว่า อธิบดีกรมการศาสนา เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาตรา ๘๖ ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ ให้แก้ไขคำว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็น นายกรัฐมนตรี และคำว่า อธิบดีกรมการศาสนา เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ๓. ตามกฎกระทรวง ได้แบ่งส่วนราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดังนี้ ข้อ ๑ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานสนอง งานคณะสงฆ์และรัฐ โดยการทำนุบำรุง ส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ให้การอุปถัมภ์ คุ้มครอง และส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนา ดูแลรักษาจัดการศาสนสมบัติ พัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งให้การสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาบุคลากรทางศาสนา โดยให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ กฎหมายว่าด้วยการกำหนด วิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง (๒) รับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหาร การปกครองคณะสงฆ์ (๓) เสนอแนวทางการกำหนดนโยบาย และมาตรการในการคุ้มครองพระพุทธ- ศาสนา - ๔ - (๔) ส่งเสริม ดูแล รักษา และทำนุบำรุงศาสนสถานและศาสนวัตถุทางพระ- พุทธศาสนา (๕) ดูแลรักษา และจัดการวัดร้างและศาสนสมบัติกลาง (๖) พัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา (๗) ทำนุบำรุงพุทธศาสนศึกษา เพื่อพัฒนาความรู้คู่คุณธรรม (๘) ปฏิบัติการอื่นใด ตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน หรือนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย ข้อ ๒ ให้แบ่งส่วนราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดังต่อไปนี้ (๑) กองกลาง (๒) กองพุทธศาสนศึกษา (๓) กองพุทธศาสนสถาน (๔) สำนักงานพุทธมณฑล (๕) สำนักงานศาสนสมบัติ (๖) สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ฯลฯ ๔. ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้อ ๑ ให้กรมการศาสนามีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐด้านศาสนา โดย การทำนุบำรุง ส่งเสริมและให้การอุปถัมภ์คุ้มครองกิจการด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ ที่ทางราชการรับรอง ตลอดจนส่งเสริม พัฒนาความรู้คู่คุณธรรม ส่งเสริมความเข้าใจอันดี และสร้างความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้คนไทยนำหลักธรรมของศาสนามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เป็นคนดีมีคุณธรรม โดยให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) ทำนุบำรุง ส่งเสริมเพื่อพัฒนาความรู้คู่คุณธรรม (๒) เสริมสร้างศีลธรรม ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม (๓) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมกิจการฮัจย์ รวมทั้งกฎหมาย และระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้อง (๔) ส่งเสริม ดูแล รักษาและทำนุบำรุงศาสนสถาน และศาสนวัตถุ - ๕ - (๕) ให้การอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ ที่ทางราชการรับรอง และ สนับสนุนการดำเนินการขององค์การศาสนา (๖) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรม หรือ ตามที่กระทรวงหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย ข้อ ๒ ให้แบ่งส่วนราชการกรมการศาสนา ดังต่อไปนี้ (๑) สำนักงานเลขานุการกรม (๒) กองศาสนูปถัมภ์ (๓) สำนักพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม ฯลฯ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะตั้งอยู่ที่อาคารกรมการศาสนาเดิม ภายในบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ และจะได้นมัสการให้เจ้าคณะพระสังฆาธิการทราบโดยทั่วกัน ที่ประชุมรับทราบ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00192551_00092.pdf (178.71 kb)
จำนวนเข้าดู : 1862
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00