• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 18/2558

มติที่ 406/2558

เรื่อง คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๘/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษาการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา) ตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชุมหารือกำหนดวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาอย่างเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ต่อมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำร่างผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเสนอผู้แทนมหาเถรสมาคม จำนวน ๓ รูป คือ พระพรหมมุนี พระพรหมโมลี และพระพรหมบัณฑิต ซึ่งเป็นกรรมการกลั่นกรองร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพิจารณาและปรับแก้แล้ว ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาหรือผลดำเนินการตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ตามกรอบแนวทางการดำเนินงาน ๓ ระยะ ดังนี้ ระยะที่ ๑ (มิถุนายน ๒๕๕๘ ถึง ธันวาคม ๒๕๕๘) ๑. ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาในส่วนที่ทำได้ทันที ๑.๑ การปกครองดำเนินการให้พระสังฆาธิการทุกระดับชั้นได้เข้มงวดความประพฤติของพระภิกษุ สามเณรในสังกัดให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎ ระเบียบ มติของมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด ๑.๒ การศึกษาเน้นคุณภาพทั้งแผนกธรรม แผนกบาลี และแผนกสามัญศึกษา โดยพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งมีโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่น โครงการอบรมครูสอน พระปริยัติธรรมแผนกบาลี เป็นต้น ๑.๓ การส่งเสริมการเรียนการสอนธรรมศึกษา ๑.๓.๑ การส่งเสริมธรรมศึกษาในสถานศึกษา จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดเรียนการสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและการเรียนธรรมศึกษาในสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการในระดับจังหวัดและอำเภอทั่วประเทศ ๑.๓.๒ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศได้เสนอจังหวัดแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการจัดการเรียนธรรมศึกษาในสถานศึกษาในระดับจังหวัดโดยมีเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานฝ่ายฆราวาส และจัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือในระดับจังหวัด ๑.๔ การเผยแผ่เน้นการเผยแผ่หลักธรรมที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องศีล ๕ พัฒนาพระภิกษุให้มีความรู้ความสามารถเพื่อเป็นพระวิปัสสนาจารย์เพิ่มขึ้น โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีการแบ่งส่วนราชการภายในเพิ่มหนึ่งหน่วยงานได้แก่ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับดูแลการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๑.๕ การสาธารณูปการ (การก่อสร้างและการบูรณปฏิสังขรณ์ อาคาร เสนาสนะในวัด การบริหารทรัพย์สินของวัด) ๑.๕.๑ มีการจัดทำรายงานการเงินของวัดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัดครบถ้วน ๑.๕.๒ มีการจัดทำฐานข้อมูลศาสนสมบัติของวัดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัด ๑.๕.๓ มีการจัดทำโครงการพัฒนาวัดตามเกณฑ์มาตรฐาน ๖ ด้าน ๑.๕.๔ การบริหารจัดการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของวัด ๑.๕.๕ การพัฒนาพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางการบริหารปกครองคณะสงฆ์และพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก โดยมีการจัดทำแผนแม่บท แผนการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ด้านภูมิทัศน์ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนปรับปรุงพื้นที่ภายในพุทธมณฑลให้ร่มรื่นเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ และด้านการเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นศูนย์กลางการประชุม และหอสมุดพระพุทธศาสนาในระดับโลก ได้จัดทำนิทรรศการกึ่งถาวรเกี่ยวกับพุทธประวัติ โดยจัดแสดงเป็นระยะเวลา ๓ ปี โดยประกอบพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป และ มีการจัดกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาตลอดปี ๒. ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในแนวทางการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ระยะที่ ๒ (มกราคม ๒๕๕๙ ถึง ธันวาคม ๒๕๕๙) - ดำเนินการตามกรอบแนวทางส่งเสริมการดำเนินงานตามภารกิจของคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านที่ได้จากการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน - ขับเคลื่อนสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จสิ้นและแนวทางที่เกิดใหม่ระหว่างดำเนินการในระยะที่ ๑ ระยะที่ ๓ (มกราคม ๒๕๖๐ ถึง ธันวาคม ๒๕๖๓) - สรุปและประเมินผลการดำเนินการตามระยะที่ ๒ พัฒนาปรับปรุงรูปแบบแนวทาง ในส่วนที่ยังไม่เสร็จตามแผนและเพิ่มเติมในส่วนอื่นที่มีความจำเป็นที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง พร้อมนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ได้เสนอแนวทางการดำเนินการ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบถวายในที่ประชุม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : c_18200758_406 ครม.มีมติรับทราบผลดำเนินงานปฏิรูปของพศ..pdf (522.27 kb)

จำนวนเข้าดู : 1043

ปรับปรุงล่าสุด : 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09:51:24

ข้อมูลเมื่อ : 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09:51:24

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved