• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 19/2559

มติที่ 517/2559

เรื่อง โครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน

ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๙/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๙ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๘ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการโครงการประชารัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ร่วมกับคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพมหานครทั้งสองฝ่าย และคณะสงฆ์ ๑๘ ภาค ทั้งสองฝ่าย สถาบันการเงินของรัฐและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมจัดตลาดประชารัฐสี่มุมเมือง ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสนำผลผลิต/ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการมา ออกร้าน เพื่อจำหน่ายในตลาดที่จัดไว้ และเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และศูนย์คุณธรรม (องค์กรมหาชน) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศด้านคุณธรรมและธรรมาภิบาล โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑. เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองและประชาชนมีคุณธรรม ศีลธรรม มีหลักธรรมาภิบาล และยึดถือปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ๒. เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ๓. เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดในการวางจำหน่ายสินค้าให้หลากหลายขึ้น เพื่อให้การดำเนินการตามแนวทางประชารัฐสำเร็จผลอย่างเป็นรูปธรรม เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลสูงสุด และดำเนินโดยอยู่บนพื้นฐานความมีคุณธรรม ศีลธรรม มีหลักธรรมาภิบาล และประชาชนยึดถือปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เพื่อให้สังคมและประเทศชาติมีความมั่นคง และความเข้มแข็ง ไปด้วยพร้อมกัน และดำเนินการตามกรอบแนวทางบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงาน (Memorandum Of Understanding: MOU) ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมขับเคลื่อนให้บรรลุผลสำเร็จ โดยสรุปรายละเอียดสาระสำคัญแนวทางการดำเนินงานตามกรอบนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ดังนี้ กรอบนโยบาย ๑. ส่งเสริมพัฒนาโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และโครงการตลาดประชารัฐ เพื่อประชาชนให้กระจายโอกาสแก่ประชาชนให้ทั่วถึง ครอบคลุมทุกพื้นที่ ๒. การดำเนินโครงการตลาดประชารัฐในพื้นที่วัดที่มีความพร้อมเหมาะสม ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ๓. ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และโครงการตลาดประชารัฐ เพื่อประชาชนรองรับการท่องเที่ยว ๔. การอบรมบ่มเพาะให้สมาชิกโครงการเป็นผู้มีคุณธรรม ศีลธรรม มีธรรมาภิบาล มีความซื่อสัตย์สุจริต สามัคคีปรองดอง เป็นสังคมคุณธรรม เพื่อเป็นกลไกและเป็นภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป แนวทางดำเนินการ ๑. ปรับปรุงการดำเนินการ ตามมติ ครม. วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๘ ในการดำเนินการโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชนในกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ร่วมกับคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพมหานครทั้งสองฝ่าย และคณะสงฆ์ ๑๘ ภาค ทั้งสองฝ่าย สถาบันการเงินของรัฐ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมจัดตลาดประชารัฐ โดยเบื้องต้นทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะคัดเลือกวัดจาก ๓๗ เขตการปกครองสงฆ์ ในกรุงเทพมหานคร อย่างน้อยเขตละ ๑ วัด เข้าร่วมโครงการ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานขอความอนุเคราะห์วัดที่มีความพร้อมเพื่อใช้สถานที่ โดย สทบ. และสถาบันการเงินจัดผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพมหานคร นำผลิตผล/ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการมาออกร้านเพื่อจำหน่ายในตลาดที่จัดไว้ และให้หน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ความรู้และช่วยสนับสนุนต่อยอดการพัฒนาผลิตผล/ผลิตภัณฑ์ และตลาดให้มีคุณภาพซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและราคาเป็นธรรมไปพร้อมกัน ทั้งนี้ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการ ประชุมคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์แนวทางการดำเนินการ ๒. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะจัดตั้งผู้ประสานงานระดับจังหวัด ดำเนินการประสานงานโครงการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ สทบ. โดย สทบ. จะดำเนินการถ่ายทอดความรู้ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ แนวทางต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกองทุนของ สทบ. เพื่อให้ผู้ประสานงานของสำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติลงพื้นที่เพื่อสื่อสารกับคณะผู้ปกครองสงฆ์ วัด และชุมชน เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ๓. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะร่วมมือกับ สทบ. ในการอำนวยความสะดวกด้านสถานที่สำหรับเส้นทางการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ซึ่ง สทบ. ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันกำหนดขึ้น และมีการอบรมต่อยอดการพัฒนาสินค้า การเป็นผู้นำการท่องเที่ยวในท้องถิ่น การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะให้ความร่วมมือด้านสถานที่โดยให้วัดเป็นศูนย์กลางสำหรับจุดที่เป็นแหล่งเชื่อมโยงการท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมและการอำนวยความสะดวกต่างๆ ๔. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ สทบ. จะหารือแนวทางการเข้าร่วมโครงการของชุมชนรอบวัดที่มีความประสงค์จะดำเนินโครงการผ่านวัด เพื่อสร้างโอกาส พัฒนาศักยภาพของประชาชน หมู่บ้านและชุมชน สร้างความเข้มแข็งต่อระบบเศรษฐกิจฐานราก ความปรองดองสมานฉันท์ในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการสร้างสังคมสันติสุข ส่งเสริมความสมานฉันท์ของศาสนิกชนของทุกศาสนา โดยการรับรองโครงการของชุมชนผ่านวัดและสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในพื้นที่ (ในส่วนภูมิภาค) และผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ในกรุงเทพมหานคร) แล้วส่งให้ สทบ. พิจารณาสนับสนุนการดำเนินการต่อไป ๕. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะประสานงานกับศูนย์ส่งเสริมศีลธรรม ศูนย์อบรมคุณธรรม จริยธรรม ทั่วประเทศ โดยจัดทำหลักสูตรการอบรมให้แก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ให้เป็นผู้มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความสามัคคีปรองดอง เป็นสังคมคุณธรรม เพื่อเป็นกลไกและเป็นภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเข้มแข็ง เป็นระบบ เป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ สร้างศรัทธาการยอมรับในการอำนวยประโยชน์แก่ประชาชน สังคม และประเทศชาติ โดยคณะสงฆ์และวัดเป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนการเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง จึงเห็นควรนำเสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณาแต่งตั้งคณะที่ปรึกษา คณะกรรมการอำนวยการ และคณะทำงาน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ โดยมีองค์ประกอบและหน้าที่ความรับผิดชอบ ดังนี้ ๑. คณะที่ปรึกษาโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและโครงการตลาดประชารัฐ เพื่อประชาชน ประกอบด้วย ๑) เจ้าคณะใหญ่ ๒) เจ้าคณะภาค โดยให้มีหน้าที่ให้คำปรึกษา คำแนะนำ และข้อเสนอแนะในการดำเนินงานแก่คณะกรรมการอำนวยการ และคณะทำงานฝ่ายต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการ และการขับเคลื่อนโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ๒. คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนโครงการและคณะทำงานโครงการประชารัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน ในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ๒.๑ คณะกรรมการอำนวยการ ๑) พระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ประธานกรรมการ ๒) เจ้าคณะเขต กรรมการ ๓) ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หรือผู้แทน กรรมการ ๔) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้แทน กรรมการ ๕) รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมาย กรรมการ ๖) ส่วนราชการ/ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง กรรมการ ๗) พระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กรรมการ และเลขานุการ ๘) ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน กรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ ๙) ผู้อำนวยการกลุ่มบูรณะพัฒนาวัดและศาสนสงเคราะห์ กรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ ๑๐) หัวหน้าฝ่ายออกแบบและก่อสร้าง กรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการมีหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ ควบคุม กำกับดูแลโครงการ การดำเนินการตามกิจกรรม/โครงการ เสนอแนะ ปรับปรุง แนวทาง การดำเนินการจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ รูปแบบ และแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ แต่งตั้งคณะทำงานชุดย่อยหรือเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคณะทำงาน รวมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินงานช่วยเหลือการขับเคลื่อนโครงการตามความเหมาะสม เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ๒.๒ คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชนในกรุงเทพมหานคร ประจำเขต ประกอบด้วย ๑) เจ้าคณะเขต ประธานคณะทำงาน ๒) เจ้าคณะแขวง คณะทำงาน ๓) ผู้อำนวยการเขตหรือผู้แทน คณะทำงาน ๔) ผู้แทนสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ คณะทำงาน ๕) ส่วนราชการ/ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง คณะทำงาน ๖) เลขานุการเจ้าคณะเขต คณะทำงาน และเลขานุการ ๗) เลขานุการเจ้าคณะแขวง คณะทำงาน และผู้ช่วยเลขานุการ ๘) ผู้อำนวยการกลุ่มบูรณะพัฒนาวัดและศาสนสงเคราะห์ คณะทำงาน และผู้ช่วยเลขานุการ ๙) หัวหน้าฝ่ายออกแบบและก่อสร้าง คณะทำงาน และผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะทำงานมีหน้าที่กำหนดแผน มาตรการ แนวทาง เป้าหมายการคัดเลือกวัดและชุมชนเพื่อเข้าร่วมและสนับสนุนการดำเนินโครงการ การจัดประชุม ชี้แจง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ รูปแบบ แนวทางตามที่คณะกรรมการอำนวยการกำหนดแก่กลุ่มเป้าหมายและภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนการทำงานบรรลุผลสำเร็จ ๓. คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนโครงการและคณะทำงานโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน ประจำจังหวัด ประกอบด้วย ๓.๑ คณะกรรมการอำนวยการ ๑) เจ้าคณะจังหวัด ประธานกรรมการ ๒) เจ้าคณะอำเภอ กรรมการ ๓) เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด กรรมการ ๔) ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทน กรรมการ ๕) ผู้แทนสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กรรมการ ๖) ส่วนราชการ/ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง กรรมการ ๗) ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด กรรมการ และเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการมีหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ ควบคุม กำกับดูแลการดำเนินงานตามกิจกรรม/โครงการ ให้ข้อเสนอแนะ ปรับปรุง รูปแบบแนวทางการขับเคลื่อนงาน จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ แนวทางการทำงาน แต่งตั้งคณะทำงานชุดย่อยหรือเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคณะทำงาน รวมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินงานช่วยเหลือการขับเคลื่อนโครงการตามความเหมาะสม เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ๓.๒ คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน ประจำอำเภอ ประกอบด้วย ๑) เจ้าคณะอำเภอ ประธานคณะทำงาน ๒) เจ้าคณะตำบล คณะทำงาน ๓) เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ คณะทำงาน ๔) นายอำเภอหรือผู้แทน คณะทำงาน ๕) ส่วนราชการ/ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง คณะทำงาน ๖) ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหรือผู้แทน คณะทำงาน และเลขานุการ ๗) เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย คณะทำงาน และผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะทำงานมีหน้าที่กำหนดแผน มาตรการ แนวทาง เป้าหมาย คัดเลือกวัดและชุมชน เพื่อเข้าร่วมและสนับสนุนการดำเนินโครงการ การจัดประชุม ชี้แจง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ รูปแบบ แนวทางตามที่คณะกรรมการอำนวยการกำหนดแก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนการทำงานบรรลุผลสำเร็จ ๔. ให้รายงานผลการดำเนินการโครงการทุกวันที่ ๕ ของเดือน เพื่อรายงานความก้าวหน้าเสนอ มหาเถรสมาคม ต่อไป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติดังนี้ ๑. เห็นชอบโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และโครงการตลาดประชารัฐ เพื่อประชาชน ๒. เห็นชอบบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงาน (MOU) ๓. เห็นชอบให้วัดร่วมโครงการตามความเหมาะสม ๔. เห็นชอบให้บูรณาการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อปต.) และโครงการหมู่บ้าน- รักษาศีล ๕ ร่วมสนับสนุนโครงการประชารัฐตามความเหมาะสม ๕. เห็นชอบคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนโครงการให้สำเร็จผลอย่างเป็นรูปธรรม เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลอย่างสูงสุด และให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : c_19090959_517 โครงการประชารัฐ โครงการตลาดประชารัฐ.pdf (1.03 mb)

จำนวนเข้าดู : 867

ปรับปรุงล่าสุด : 23 กันยายน พ.ศ. 2559 09:28:20

ข้อมูลเมื่อ : 23 กันยายน พ.ศ. 2559 09:28:20

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved