มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 19/2545
มติที่ 294/2545
เรื่อง การขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๙/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง การขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๙/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดอุดรธานีได้ส่งรายงานขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา จำนวน ๒ วัด กรมการศาสนาได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้ว ปรากฏรายละเอียดดังนี้ ๑. วัดป่าเทพารักษ์ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านหมูม่น หมู่ที่ ๑ ตำบลหมูม่น อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ที่ดินที่ตั้งวัดมีจำนวน ๒๓ ไร่ ๓ งาน ๒๘ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๑๒๙๐๔ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. ศาลาจตุรมุข ๓. กุฏิสงฆ์ ๕ หลัง ๔. โรงครัว ๕. ห้องน้ำ มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๕ รูป สามเณร ๑ รูป ระยะห่างจากวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง ทิศเหนือ ห่างจากวัดทุ่งสว่าง ประมาณ ๑ กิโลเมตร ทิศใต้ ห่างจากวัดสำโรงพุทธาวาส ประมาณ ๑ กิโลเมตร - ๒ - ทิศตะวันออก ห่างจากวัดท่าสว่างศรีไพฑูรย์ ประมาณ ๒ กิโลเมตร ทิศตะวันตก ห่างจากวัดวิทยานุกิจ ประมาณ ๗๐๐ เมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๕๐๐ คน ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นประกอบกรณีห่างจากวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ไม่ถึง ๒ กิโลเมตร ๑. เป็นวัดที่ตั้งอยู่คนละหมู่บ้านกับวัดร้าง ฉะนั้น ประชาชนที่สนับสนุน ทำนุบำรุงวัดจึงเป็นคนละหมู่บ้านกัน ๒. ประชาชนมีจำนวนมากพอที่จะสนับสนุนและทำนุบำรุงวัดให้เจริญได้ ๓. เป็นวัดเก่าแก่มาก ๒. วัดบ้านหนองตอ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านหนองตอ หมู่ที่ ๕ ตำบลเชียงยืน อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ที่ดินที่ตั้งวัดมีจำนวน ๕ ไร่ ๑ งาน ๓๓ ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก) เลขที่ ๒๒๓๙ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. ศาลาการเปรียญ ๒. ศาลาบำเพ็ญกุศล ๓. กุฏิสงฆ์ ๙ หลัง ๔. เมรุ ๕. ห้องน้ำ มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๔ รูป สามเณร ๓ รูป ระยะห่างจากวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาในละแวกใกล้เคียง ทิศเหนือ ห่างจากวัดบ้านสูงแคน ประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร ทิศใต้ ห่างจากวัดบ้านนาเยีย ประมาณ ๓ กิโลเมตร ทิศตะวันออก ห่างจากวัดบ้านนาทราย ประมาณ ๓ กิโลเมตร ทิศตะวันตก ห่างจากวัดบ้านดงหนองโพธิ์ ประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร - ๓ - มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๗๐๐ คน ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นประกอบกรณีมีที่ดินไม่ถึง ๖ ไร่ เนื่องจากที่ดินที่ตั้งวัดอยู่ติดทางสาธารณประโยชน์ และบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมาก ไม่สามารถขยายออกไปได้อีก ประกอบกับปัจจุบันทางวัดได้สร้างกำแพงวัดล้อมรอบทั้ง ๔ ด้าน หมดแล้ว ในการนี้ ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต คือ พระครูโสภณศาสนกิจ และพระครูประสิทธิพุทธมนต์ และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา คือ นางสาวอุษา จำนงค์ไทย และนางสาลี่ ทองธาระ ได้ไปตรวจสอบแล้ว เห็นควรยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา กรมการศาสนามีความเห็นว่า ควรสนับสนุนให้ยกวัดร้างทั้งสองวัดขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ การขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับแล้ว ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยกวัดร้างทั้ง ๒ วัด ขึ้นเป็นวัดมี พระภิกษุอยู่จำพรรษา คือ ๑. วัดป่าเทพารักษ์ (ร้าง) ตำบลหมูม่น อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ๒. วัดบ้านหนองตอ (ร้าง) ตำบลเชียงยืน อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF02982551_00300.pdf (104.99 kb)
จำนวนเข้าดู : 1281
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00