• หน้าหลัก
  • มหาเถรสมาคม
    • เกี่ยวกับมหาเถรสมาคม
    • อำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม
    • กองงานในสังกัดมหาเถรสมาคม
    • คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม
    • การประชุมมหาเถรสมาคม
    • กรรมการมหาเถรสมาคม
    • มหาเถรสมาคมกับการปกครองคณะสงฆ์
  • สำนักเลขาธิการฯ
    • เกี่ยวกับสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • วิสัยทัศน์ พันธกิจ อำนาจหน้าที่
    • กลุ่มงานภายใน
    • ทำเนียบผู้บริหาร
    • อัตรากำลังของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • บุคลากรสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - ผู้บริหาร
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานในสมเด็จพระสังฆราช
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มงานมหาเถรสมาคม
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มกิจการคณะสงฆ์
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา
    • ทำเนียบเจ้าหน้าที่สำนักฯ - สถาบันพระสังฆาธิการ
    • ข้อมูลการติดต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
  • มติมหาเถรสมาคม
  • สรุปการประชุม
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อ

มติมหาเถรสมาคม

ครั้งที่ 01/2562

มติที่ 08/2562

เรื่อง แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอบรรพชาอุปสมบท

ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๒ เลขาธิการมหาเถร-สมาคมเสนอว่า ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๕/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบจัดทำระบบตรวจสอบประวัติผู้ขอบรรพชา หรือบรรพชาอุปสมบท นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้หารือร่วมกับ พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต. ปิยพันธ์ ปิงเมือง หัวหน้าสำนักงาน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ. กิตติศักดิ์ ปลาทอง รองผู้บังคับการสำนักงานกฎหมายและคดี และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการขอความร่วมมือเพื่อคัดกรองผู้ที่จะเข้ารับการบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ในส่วนของการตรวจสอบประวัติอาชญากรจากการพิมพ์ลายนิ้วมือและหมายจับจากหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการในการดำเนินการกรณีดังกล่าว โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะให้คณะทำงานเป็นผู้กำหนดแนวทางการดำเนินการดังกล่าว ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเสนอมหาเถรสมาคมให้ความเห็นชอบ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผ่านผู้บังคับการสำนักงานกฎหมายและคดี) เพื่อพิจารณา ในการนี้ ได้มีการประชุมร่วมกัน เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีที่จะให้ความร่วมมือโดยให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนดแนวทางที่ชัดเจน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอนมัสการ ดังนี้ ๑. คณะทำงานฯ นมัสการหารือ พระพรหมมุนี เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แล้วมีความเห็นว่า การคัดกรองผู้ที่จะเข้ารับการบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ให้ตรวจสอบหมายจับจากหมายเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ส่วนวิธีการในการตรวจสอบนั้นคณะทำงานฯ จะกำหนดวิธีการที่เหมาะสม สะดวกรวดเร็ว และมีหนังสือ ด่วนมาก ที่ พศ ๐๐๐๖/๑๑๐๓๘ ลงวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผ่านผู้บังคับการสำนักงานกฎหมายและคดี) เพื่อโปรดทราบและพิจารณาแล้ว ๒. เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ ได้รับแจ้งทางแอปพลิเคชันไลน์ จากผู้ประสานงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมแนบไฟล์หนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หนังสือ ที่ ตช ๐๐๑๑.๒๔/๒๙ ลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๒ เรื่อง แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอบรรพชาอุปสมบท ความว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรียน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่อง ขอความร่วมมือในการคัดกรองผู้ที่จะเข้ารับการบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาในส่วนของการตรวจสอบประวัติอาชญากรและหมายจับ นั้น กองคดีอาญา ขอเรียนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือกำหนดแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอบรรพชาอุปสมบท โดยสั่งการให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ๓. คณะทำงานจัดทำระบบตรวจสอบประวัติผู้ขอเข้ารับการบรรพชาอุปสมบท ได้จัดทำขั้นตอนการดำเนินการพร้อมทั้งแบบฟอร์มหนังสือนำส่ง ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการดังนี้ ๓.๑ เจ้าอาวาสหรือพระอุปัชฌาย์ตรวจคุณสมบัติเบื้องต้นและรวบรวมเอกสารประจำตัวของผู้ขอบรรพชาอุปสมบท และมีหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด เพื่อส่งข้อมูลให้กองทะเบียนอาชญากร หรือสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ตรวจประวัติบุคคลจากเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ๓.๒ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด รับข้อมูล ผู้ขอบรรพชาอุปสมบทจากเจ้าอาวาสหรือพระอุปัชฌาย์ แล้วส่งข้อมูลให้กองทะเบียนอาชญากร หรือสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ตรวจประวัติบุคคลจากเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ๓.๓ กองทะเบียนอาชญากร หรือสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัด รับข้อมูลผู้ขอบรรพชาอุปสมบทจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด แล้วตรวจประวัติบุคคลจากเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ๓.๔ กองทะเบียนอาชญากร หรือสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ตรวจประวัติบุคคล เสร็จเรียบร้อยแล้ว แจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทราบ ภายใน ๑๕ วัน ๓.๕ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด รับข้อมูล ผู้ขอบรรพชาอุปสมบทจากกองทะเบียนอาชญากร หรือสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ที่ตรวจสอบประวัติบุคคลแล้วแจ้งข้อมูลให้เจ้าอาวาสหรือพระอุปัชฌาย์ทราบ ภายใน ๗ วัน รายละเอียดตามเอกสารที่แนบถวายในที่ประชุม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับทราบ และถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : c_01100162_08 แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอบรรพชาอุปสมบท.pdf (694.69 kb)

จำนวนเข้าดู : 4948

ปรับปรุงล่าสุด : 10 เมษายน พ.ศ. 2567 16:15:49

ข้อมูลเมื่อ : 16 มกราคม พ.ศ. 2562 10:28:41

 
 
Tweet  
 

มหาเถรสมาคม

อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ พุทธมณฑล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170

โทรศัพท์ : 02 441 7992
สำหรับเจ้าหน้าที่เว็บไซต์

© Copyright 2025 มหาเถรสมาคม All Rights Reserved