ครั้งที่ 13/2545

มติที่ 194/2545

เรื่อง สร้อยนามวัดที่ได้รับพระราชทานยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง

มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๓/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ……………………………………. เรื่อง สร้อยนามวัดที่ได้รับพระราชทานยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๓/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณา เรื่อง สร้อยนามวัดที่ได้รับพระราชทานยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง เรื่อง การขอยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง ครั้งที่ ๓/๒๕๔๒ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ สมเด็จพระ-มหาธีราจารย์ ประธานคณะกรรมการฯ เสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณาว่า พระอารามหลวงในสมัยก่อนที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง พระบรมวงศานุวงศ์ทรงสร้างและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สร้างแล้วทูลถวายเป็นพระอารามหลวง เมื่อทรงรับเป็นพระอารามหลวงแล้ว ทรงพระราช-ทานสร้อยนามวัดต่อท้ายว่า ราชวรมหาวิหาร วรมหาวิหาร วรวิหาร เป็นต้น ตามศักดิ์ของผู้สร้าง ซึ่งปรากฏตามทำเนียบพระอารามหลวง ปัจจุบัน วัดซึ่งได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงคงอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือต่อสร้อยนามแต่ประการใด ชื่อคงอยู่ตามสภาพเดิม เช่น วัดสะแก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา วัดไผ่ล้อม อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี วัดจันทน์กระพ้อ อำเภอสามโคก วัดเขียนเขต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เป็นต้น ฉะนั้น วัดที่ได้รับการยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง จึงสมควรที่จะได้ขอรับพระราชทานชื่อวัดใหม่ และมีสร้อยนามต่อท้าย เพื่อความไพเราะ และชัดเจน เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๔๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ที่ประชุม พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบ และให้นำเสนอมหาเถรสมาคม - ๒ - อนึ่ง ในสมัยก่อนที่พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ ประกาศใช้ วัดที่ พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง หรือบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง ถ้าวัดใดมีชื่อไม่ไพเราะ พระมหากษัตริย์ก็จะทรง พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เปลี่ยนชื่อวัดให้ใหม่ เพื่อความไพเราะ เหมาะสมกับพระอารามหลวง ในขณะเดียวกัน ก็จะกำหนดชั้น และชนิดของพระอารามหลวงในคราวเดียวกัน ตัวอย่าง เช่น ๑. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวร-มหาวิหาร เดิมชื่อ วัดโพธาราม หรือวัดโพธิ์ ๒. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหา-วิหาร เดิมชื่อ วัดสลัก ๓. วัดอรุณราชวราราม พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดแจ้ง ๔. วัดบวรนิเวศวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดใหม่ ๕. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวร-วิหาร เดิมชื่อ วัดแหลม หรือวัดไทรทอง ๖. วัดราชโอรสาราม พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมชื่อ วัดจอมทอง เป็นต้น ต่อมา เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ คณะสังฆมนตรี ก็ได้มีมติสังฆมนตรี เปลี่ยนชื่อวัดให้มีความไพเราะ และได้กำหนดชั้น และชนิดของวัดที่สมควรยกให้เป็นพระอารามหลวง ตัวอย่างเช่น ๑. รายงานการประชุมคณะสังฆมนตรี ครั้งพิเศษ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๘ ที่ประชุมอนุมัติให้ยก วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็น พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร มีชื่อว่า วัดเพชรสมุทรวรวิหาร - ๓ - ๒. รายงานการประชุมคณะสังฆมนตรี ครั้งที่ ๑๒/๒๔๙๙ วันเสาร์ ที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๔๙๙ ที่ประชุมมีมติให้ยก วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดวรวิหาร ๓. รายงานการประชุมคณะสังฆมนตรี ครั้งที่ ๒๐/๒๔๙๗ วันพุธ ที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๔๙๗ ที่ประชุมมีมติให้ยก วัดพระบาทมิ่งเมือง จังหวัดแพร่ เป็น พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นต้น ที่ประชุมให้หารายละเอียดเกี่ยวกับวัดที่ได้รับการอนุมัติให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงมาประกอบการพิจารณา แล้วนำเสนอมหาเถรสมาคมในคราวต่อไป

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF02982551_00183.pdf (107.62 kb)

จำนวนเข้าดู : 1962

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00