มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 11/2545
มติที่ 161/2545
เรื่อง เสนอขอกำหนดให้มีตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด ๔ จังหวัด ชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง เสนอขอกำหนดให้มีตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด ๔ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ เป็นกรณีพิเศษ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๕/๒๕๔๔ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๔๔ ที่ประชุมได้พิจารณา เรื่อง ขอกำหนดตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งกรมการศาสนาได้เสนอว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ได้มีหนังสือที่ มท ๑๑๐๓.๑/๑๐๕๔ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๔ แจ้งว่า ได้รับการประสานงานจากจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล สำนักพัฒนาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เขตการศึกษา ๒ และองค์กรสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดสตูล ให้การสนับสนุนในการขอกำหนดตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด ๔ จังหวัด ดังกล่าว เป็นกรณีพิเศษ นั้น กรมการศาสนาได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเรื่องนี้อยู่ในเขตปกครองของเจ้าคณะใหญ่หนใต้ จึงได้ถวายเรื่องนี้ไปยังเจ้าคณะใหญ่หนใต้ได้โปรดพิจารณา เจ้าคณะใหญ่หนใต้ได้มีลิขิต ที่ จญ.ต. ๒๓/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๔ แจ้งว่า ได้จัดประชุมเจ้าคณะภาค รอง เจ้าคณะภาค และเลขานุการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม จึงได้นำเรื่องนี้เสนอในที่ประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วให้ความเห็นชอบ จึงได้นำเรื่องนี้เสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคม และที่ประชุมมหาเถรสมาคมให้ถอนเรื่องออก และให้นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา รับเรื่องไปศึกษา รายละเอียดแล้วนำเสนอมหาเถรสมาคม - ๒ - บัดนี้ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ได้มีลิขิตที่ จญ.ต.๑๘/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๕ แจ้งว่า เนื่องจากการประชุมระหว่างเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค และเลขานุการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๕ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ได้มีมติเห็นชอบเกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด เป็นกรณีพิเศษ ใน ๔ จังหวัดภาคใต้ คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดสตูล ด้วยเหตุผลที่จำเป็นเกี่ยวกับศาสนิกและเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนาในดินแดนที่แวดล้อมด้วยศาสนิกอื่น และได้พิจารณาตามเหตุผลของผู้อำนวยการศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามเหตุผลของคณะกรรมการศาสนาจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบกับเหตุผลของเจ้าคณะ-ภาค ๑๘ ที่ได้เสนอเหตุผลสนับสนุน ๓ ข้อ คือ ๑. เพื่อให้ประธานสงฆ์จังหวัด คือ เจ้าคณะจังหวัดทำงานได้เต็มที่กับคณะสงฆ์ ถ้ามีรองเจ้าคณะอีก ๑ รูป ก็จะเป็นผู้ประสานงานระหว่างชุมชนสังคม ทำให้ทันกับเหตุการณ์บ้านเมืองอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนิกชนของศาสนาอื่น ๒. เพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา ในเขตที่ล่อแหลมด้วยศาสนิกชนของศาสนาอื่น ในกรณีเช่นนี้ มีเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาสเป็นตัวอย่างในการดำเนินการอยู่แล้ว ๓. เพื่อความจำเป็นในด้านพระราชพิธี ใน ๔ จังหวัดภาคใต้ พระสังฆาธิการที่จะดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด ควรมีคุณสมบัติดังนี้ ๑. ต้องเป็นพระเถระผู้อยู่ในพื้นที่ท้องถิ่น ๒. ต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษา โดยเฉพาะภาษายาวี การเสนอขอกำหนดให้มีตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดเป็นกรณีพิเศษนั้น ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับ จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนใต้แล้ว และได้ปฏิบัติตามระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอ และรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ.๒๕๓๗ ข้อ ๖ ระบุว่า ในเขตปกครองท้องที่อำเภอหรือจังหวัดฝ่ายคณะสงฆ์ใด มีจำนวนวัดไม่เข้าในหลักเกณฑ์ตามข้อ ๔ (ก) หรือข้อ ๕ (ก) (มีวัดไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ วัด ให้เจ้าคณะใหญ่พิจารณาตามข้อเสนอของเจ้าคณะภาค ว่า สมควรจะมีรองเจ้าคณะจังหวัดหรือไม่ ถ้าพิจารณาเห็นสมควร ก็ให้จังหวัดนั้นมีรองเจ้าคณะจังหวัด ได้ ๑ รูป) แต่มีความจำเป็นอย่างแท้จริง เนื่องในการปกครองคณะสงฆ์ สมควรจะมีรองเจ้าคณะอำเภอหรือรองเจ้าคณะจังหวัดได้เป็นกรณีพิเศษ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคมพิจารณา - ๓ - เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ขอให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติให้มีคณะกรรมการประสานงานในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๘ ประกอบด้วย เจ้าคณะภาค ๑๘ ประธานกรรมการ รองเจ้าคณะภาค ๑๘ รองประธานกรรมการ เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดในภาค ๑๘ กรรมการ รองเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด กรรมการ (ที่มีรองเจ้าคณะจังหวัด) เจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอในภาค ๑๘ กรรมการ ให้ประธานกรรมการคัดเลือกพระเถระที่มีความรู้ความสามารถพิเศษร่วมเป็น กรรมการ และให้มีหน้าที่ประสานงานเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อทราบ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF02982551_00215.pdf (124.34 kb)
จำนวนเข้าดู : 1419
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00