ครั้งที่ 11/2545

มติที่ 162/2545

เรื่อง การขอยกวัดพระเจ้าตนหลวง (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา

มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ ………………………………… เรื่อง การขอยกวัดพระเจ้าตนหลวง (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุ อยู่จำพรรษา ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งรายงานการขอยกวัดพระเจ้าตนหลวง (ร้าง) อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา กรมการศาสนา ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ พร้อมทั้งได้ไปตรวจพื้นที่ตั้งวัดแล้ว มีรายละเอียดดังนี้ วัดพระเจ้าตนหลวง (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านสันป่าตึง หมู่ที่ ๓ ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ดินของวัดมีเนื้อที่จำนวน ๓๕ ไร่ - งาน ๕๕ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๖๗๓๑ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ ๑. อุโบสถ ๒. เจดีย์ ๓. ศาลาการเปรียญ ๔. กุฏิ ๑๓ หลัง ๕. ห้องน้ำและห้องสุขา มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ๖ รูป - ๒ - ทิศเหนือ ห่างจากวัดสันป่ายาง ประมาณ ๕ กิโลเมตร ทิศใต้ ห่างจากวัดสะลวงนอก ประมาณ ๓ กิโลเมตร ทิศตะวันออก ในระยะ ๑๐ กิโลเมตรไม่มีวัด ทิศตะวันตก ห่างจากวัดสันป่าตึง ประมาณ ๒ กิโลเมตร มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ ๑,๐๐๐ คน ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต คือ พระบวรสุทธิวงศ์ พระครูประสิทธ-พุทธมนต์ และพระมหาไฉน จิตฺตสุทฺโธ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา คือ นายมนตรี บำรุง นางฐิติรัตน์ ลำดวน และนางสาลี่ ทองธาระ ได้ไปตรวจสอบสภาพวัดแล้ว เห็นสมควร ยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ กรมการศาสนามีความเห็นว่า ควรสนับสนุนให้ยกวัดพระเจ้าตนหลวง (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ การเสนอขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาดังกล่าว ได้ปฏิบัติ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง และเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัด ตามลำดับแล้ว ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบให้ยกวัดพระเจ้าตนหลวง (ร้าง) ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาได้ตามเสนอ

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

เอกสารประกอบ 1 : CCF02982551_00216.pdf (68.61 kb)

จำนวนเข้าดู : 1234

ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00

ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00