มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 11/2545
มติที่ 154/2545
เรื่อง การอนุรักษ์เอกสารโบราณ
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง การอนุรักษ์เอกสารโบราณ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า กรมศิลปากร ได้มีบันทึก ที่ ศธ ๐๗๑๐/๑๕๓๗ ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๕ แจ้งว่า หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร มีโครงการสำรวจเอกสารโบราณ ณ อารามต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ จนถึงปัจจุบัน ผลของโครงการทำให้ได้รับมอบเอกสารโบราณจากเจ้าคณะพระสังฆาธิการและเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ จำนวนมาก โดยเมื่อได้รับแล้ว ได้นำมาดำเนินการอ่าน ถ่ายทอด แปล และวิเคราะห์วิจารณ์ เป็นประโยชน์ต่อวิชาการศึกษาค้นคว้าของส่วนรวมตลอดมา กรมศิลปากรได้พิจารณาเห็นว่า เอกสารโบราณอันได้แก่ คัมภีร์ใบลาน สมุดไทย และจารึก เป็นมรดกสมบัติศิลปวัฒนธรรมทางการศึกษาอันล้ำค่าของชาติ เป็นภูมิปัญญาไทยที่สำคัญและหาได้ยากยิ่ง เอกสารโบราณเหล่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่ตามวัดต่าง ๆ สมควรได้รับการอนุรักษ์สงวนรักษาไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าของอนุชนรุ่นหลัง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้รับการดูแลรักษาก็จะผุเปื่อยพังและถูกหมู่สัตว์และแมลงมีปลวกเป็นต้นกัดแทะทำลายและสูญสลายไปในที่สุด กรมศิลปากรมีความประสงค์ที่จะขอความอนุเคราะห์วัดต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้โปรดสำรวจตรวจสอบเก็บรักษาเอกสารโบราณไว้ในที่ปลอดภัย หากไม่ต้องการเพราะไม่มีที่เก็บ ขอให้วัดต่าง ๆ แจ้งหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากรทราบ เพื่อ - ๒ - จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปขอรับนำมาเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติสืบต่อไป และขอให้กรมการศาสนานำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อจะได้แจ้งให้เจ้าคณะพระสังฆาธิการทราบโดยทั่วกัน ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการอนุรักษ์เอกสารโบราณตามที่กรมศิลปากรเสนอ ๒. ให้กรมการศาสนาแจ้งเจ้าคณะจังหวัด เพื่อแจ้งวัดในเขตปกครองให้สำรวจและจัดทำบัญชีเอกสารโบราณของวัดในเบื้องต้น (ถ้ามี) เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ หากวัดใดมีความประสงค์ที่จะให้กรมศิลปากรช่วยเก็บรักษาเอกสารโบราณ แทนวัด ให้แจ้งกรมการศาสนาเพื่อประสานกับกรมศิลปากรดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามหลักพระวินัย ๓. เมื่อกรมศิลปากรได้รับเอกสารโบราณจากวัดต่าง ๆ แล้ว ให้จัดทำเอกสารติดไว้ที่เอกสารโบราณนั้น ว่าเป็นของวัดใด รวมทั้งให้จัดทำทะเบียนประวัติเอกสารโบราณนั้น ๆ เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งมอบสำเนาให้แก่กรมการศาสนาและวัดเก็บไว้เป็นหลักฐาน ๔. ให้กรมการศาสนามอบกลุ่มวิชาการพระพุทธศาสนาและจริยศึกษา กองศาสนศึกษา รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF02982551_00208.pdf (80.28 kb)
จำนวนเข้าดู : 1412
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00