มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 15/2545
มติที่ 225/2545
เรื่อง พระภิกษุถูกควบคุมตัวที่รัฐสภา
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๕/๒๕๔๕ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ เรื่อง พระภิกษุถูกควบคุมตัวที่รัฐสภา ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๕/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๔๕ กรมการศาสนาได้รับแจ้งว่า มีพระภิกษุถืออาวุธปืนเข้าไปในรัฐสภาซึ่งเป็นเขตพระราชฐาน จึงได้ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า พระภิกษุดังกล่าวชื่อ พระมหาสายันต์ จิรสุโภ อายุ ๓๗ พรรษา ๑๖ ป.ธ. ๓ สังกัดวัดจางวาง ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เดินทางจากจังหวัดจันทบุรีถึงรัฐสภาเมื่อเวลา ๐๘.๒๐ น. เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานวุฒิสภา กรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอสอยดาวจับกุมและทำร้ายร่างกาย ในข้อหาบุกรุกแผ้วถาง ยึดถือครอบครอง และตัดโค่นต้นไม้ จำนวน ๑๐ ไร่ การเดินทางมาครั้งนี้ได้นำอาวุธปืนยาวพับฐาน เข้าไปในรัฐสภา และยิงปืนหนึ่งนัด จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาควบคุมตัวและได้มอบให้ตำรวจนครบาลดุสิต นำตัวไปดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนและยิงปืนในเขตพระราชฐาน ต่อมา เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาได้ประสานงานนิมนต์ พระราชกิตติเมธี เจ้าคณะเขตดุสิต พระครูใบฎีกาปารีส นาควํโส ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะแขวงดุสิต มาเพื่อพิจารณาให้ลาสิกขา แต่พระมหาสายันต์ จิรสุโภ ไม่ยอมลาสิกขา เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยคำปรึกษาของเจ้าคณะเขต และเจ้าคณะแขวง ได้ให้สละสมณเพศ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป / พร้อมกันนี้ จังหวัดจันทบุรี . - ๒ - พร้อมกันนี้ จังหวัดจันทบุรี ได้มีหนังสือที่ จบ ๐๐๓๒/๑๔๕๓ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับกรณีนี้ต่อกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ ๑. ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ พระมหาสายันต์ ได้บุกรุกเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า เขาสอยดาว ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เพื่อก่อสร้างสำนักสงฆ์ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๓๙ เวลา ๑๒.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและศึกษาธิการอำเภอ ได้ร่วมกันจับกุมพระมหาสายันต์ โดยกล่าวหาว่า ยึดครอบครองที่ดินเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และแผ้วถางป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า มีความผิดตามฟ้อง เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๐ ลงโทษจำคุก ๑ ปี ปรับ ๑๒,๐๐๐ บาท โทษจำรอไว้ก่อนให้คุมประพฤติ ๓ เดือน ต่อครั้ง มีกำหนด ๑ ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๑ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ๒. สืบเนื่องจากการดำเนินคดีตามข้อ ๑ พระมหาสายันต์ได้ร้องเรียนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มาโดยลำดับ ดังนี้ ๒.๑ วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๓ พระมหาสายันต์ ได้มาพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอสอยดาว แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ที่จับกุมนั้นมีผู้ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตนซึ่งอยู่ในสมณเพศ โดยขอให้มีการขออภัยและลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน ๒.๒ วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๔๓ พระมหาสายันต์ แจ้งความกล่าวหา จ่าสิบตำรวจ สมสิน เหิมขุนทด และ สิบตำรวจโท โอภาส ปุราชะทำมัง เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมจำเลยศาลจังหวัดจันทบุรี ข้อหาทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๔๓ ที่ข้างศาลจังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ร้อยตำรวจเอก สมชาติ สังข์เงิน พนักงานสอบรับแจ้งรับคำร้องทุกข์ไว้เแล้วสอบสวนเสร็จมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง คดียุติไปแล้ว / ๒.๓ วันที่ ๒๕ สิงหาคม . - ๓ - ๒.๓ วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๔๓ ได้มาแจ้งความกล่าวหา ร้อยตำรวจเอก สุวิท สุดเส้นผม ว่าจับพระโดยยังไม่ได้แจ้งให้เจ้าคณะตำบลสึกก่อน และให้ดำเนินคดีกับ สิบตำรวจเอก สถิต ม่วงศิริ ว่าทำร้ายร่างกายในขณะที่ทำการจับกุม แต่จากคำให้การของ พระมหาสายันต์ว่า ได้ลาสิกขากับเจ้าคณะตำบลทรายขาวแล้ว ส่วนกรณีทำร้ายร่างกายขณะนำตัวเข้าห้องควบคุม พยานในขณะนั้นยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายพระมหาสายันต์แต่อย่างใด ๓. วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๓ พระมหาสายันต์ จิรสุโภ ได้ร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีว่า เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๓ วันออกพรรษา ซึ่งมีพิธีทำบุญตักบาตรเทโว พระมหาสายันต์ได้ออกไปธุระนอกวัดสำโรง ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ซึ่งเป็นที่พำนัก และเมื่อกลับถึงวัดปรากฏว่าห้องกุฏิถูกงัด กำนันตำบลทรายขาวและพวก ๓ คน ได้แจ้งพระมหาสายันต์ว่า ได้พบลูกระเบิด ๒ ลูก ในห้องพักและได้ส่งให้ทางราชการไปแล้ว พร้อมทั้งได้ให้พรรคพวกเก็บข้าวของพระมหาสายันต์ออกจากกุฏิที่พักและให้พระมหาสายันต์ออกจากวัด พระมหาสายันต์จึงได้ร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน จังหวัดจันทบุรีได้ให้อำเภอสอยดาว และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งผลการตรวจสอบสรุปว่าพระมหาสายันต์มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จังหวัดจึงได้พยายามติดต่อพระมหาสายันต์เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและหาแนวทางแก้ไขข้อคับข้องใจของพระมหาสายันต์ผู้ร้อง แต่ไม่พบพระมหาสายันต์ในพื้นที่ของจังหวัดจันทบุรีแต่อย่างใด และเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๔ พระมหาสายันต์ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีต่อศาลปกครองเกี่ยวกับการดำเนินการกรณีข้อร้องเรียน เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๓ ดังกล่าว ศาลปกครองได้ให้จังหวัดจันทบุรีทำคำให้การแก้คำฟ้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้ทำคำให้การแก้คำฟ้องส่งศาลปกครองไปเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๔ / กรมการศาสนาพิจารณาแล้ว - ๔ - กรมการศาสนาพิจารณาแล้ว เห็นควรนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ และให้กรมการศาสนาส่งเรื่องให้เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อทราบ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF02982551_00228.pdf (154.03 kb)
จำนวนเข้าดู : 1849
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00