มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 18/2546
มติที่ 333/2546
เรื่อง แนวทางการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๘/๒๕๔๖ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง แนวทางการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๘/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่ คณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนที่มีอยู่ในประเทศ สำนักงานคณะกรรมการ-พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง แนวทางการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบนโยบายการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่มีหลักการพื้นฐาน คือ เอกสารสิทธิแบบมีเงื่อนไขและสามารถกำกับดูแลการโอนสิทธิได้ โดยมีแนวทางการนำไปสู่การปฏิบัติ และมอบให้หน่วยงาน ต่าง ๆ ที่รับผิดชอบในสินทรัพย์แต่ละประเภทรับไปดำเนินการ นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ในด้านสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แก่สินทรัพย์ที่เป็นที่ดินและอาคาร ศาสนสมบัติกลางที่เป็นสิทธิการเช่า ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเร่งรัดจัดทำเอกสารสิทธิการเช่า และแก้ไขระเบียบเพื่อให้สามารถโอนสิทธิในกรณีผู้กู้เดิมผิดนัดชำระ และให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบทรัพย์สินที่ดินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ และจัดทำแนวทางการเพิ่มมูลค่าให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป ซึ่งสำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติได้ร่างระเบียบว่าด้วยการนำสิทธิการเช่าอาคารศาสนสมบัติ เช่าที่ดินศาสน-สมบัติ เพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย หรือเช่าที่ดินศาสนสมบัติเพื่อพัฒนาเป็นโครงการไปทำสัญญาผูกพันเงินกู้กับธนาคาร พ.ศ. ๒๕๔๔ ขึ้นใช้แล้ว - ๒ - สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอนมัสการว่า สินทรัพย์ที่อยู่ในความดูแล มีดังนี้ ๑. ที่ดิน ๑.๑ ที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้าง - วัดร้าง ๖,๙๖๕ วัด เนื้อที่ ๖๐,๓๐๘ ไร่ ๒ งาน ๗๔.๔๖ ตารางวา - ศาสนสมบัติกลาง ๖๗ แห่ง เนื้อที่ ๓,๓๓๐ ไร่ ๒ งาน ๑๔.๙๕ ตารางวา ๑.๒ ที่ดินศาสนสมบัติวัดที่มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดประโยชน์ จำนวน ๑๕๗ วัด เนื้อที่ ๕๖๑ ไร่ ๒ งาน ๔๐ ตารางวา ๒. อาคารศาสนสมบัติกลาง จำนวน ๒,๕๗๕ คูหา ซึ่งจัดประโยชน์โดยการให้เช่าทั้งหมดแล้ว เช่น อาคารพาณิชย์ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมัน โกดัง แฟลต เป็นต้น กรณีที่ดินศาสนสมบัตินั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น มีการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา มีการยุบเลิกวัด ที่ดินบางส่วนยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ จึงทำให้มีผู้บุกรุก ดังนั้น จำนวนที่ดินจึงยังไม่สมบูรณ์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงข้อมูลให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและเป็นปัจจุบัน สำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลในการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนตามนโยบายรัฐบาล ในโอกาสข้างหน้าต่อไป / สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ - ๓ - สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเรียนรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อทราบแล้ว พร้อมทั้งได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสน-สมบัติกลางประจำ (พศป.) ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๔๖ วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๖ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบ และให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อทราบ ที่ประชุมรับทราบ (นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์) เลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00192551_00551.pdf (93.13 kb)
จำนวนเข้าดู : 1454
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00