มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 03/2549
มติที่ 64/2549
เรื่อง การขอแก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินวัดโนนชัยวราราม (ร้าง) ให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม จังหวัดขอนแก่น
มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๓/๒๕๔๙ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม มติที่ . เรื่อง การขอแก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินวัดโนนชัยวราราม (ร้าง) ให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม จังหวัดขอนแก่น เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานศาสนสมบัติ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๓/๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๙เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดขอนแก่นได้มีหนังสือ ที่ ขก ๐๐๑๙.๒/๓๒๙๕ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ แจ้งว่า พระครูศรีวัฒนาทร รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมือง-ขอนแก่น (ธรรมยุต) ได้มีลิขิตลงวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๔๒ ร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น ความว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการอำเภอเมืองขอนแก่นได้นำหนังสือ ส.ค. ๑ ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนารามไปขอออกโฉนดที่ดิน โดยแจ้งว่า เป็นที่ดินของวัดโนนชัยวราราม (ร้าง) อันเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้วัดโนนชัยวนาราม ซึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๑๖ ได้รับความเสียหาย โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ ซึ่งออกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๐ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องการให้แก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ให้ตรงตามความจริง และกรณีดังกล่าว สำนักงานที่ดินจังหวัด-ขอนแก่นได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ได้แจ้งเจ้าคณะอำเภอเมืองขอนแก่น (ธรรมยุต) ทราบว่า ในการยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มอบอำนาจให้ นายอนันต์ อิสสระพงษ์ ศึกษาธิการอำเภอเมืองขอนแก่น เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้แจ้งว่า ที่ดินแปลงนี้เดิมเป็นที่ตั้งวัด ต่อมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้เป็นวัดร้าง สำนักงานที่ดินจังหวัด-ขอนแก่นจึงได้ออกโฉนดที่ดินตามเอกสารหลักฐานที่ผู้ขอนำมาประกอบเรื่อง ซึ่งสำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้มีอำนาจในการดูแลรักษาและจัดการ ดังนั้น หากมีความ - ๒ - ประสงค์จะขอแก้ไขโฉนดที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม ขอให้แจ้งต่อศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและเป็นผู้แจ้งความประสงค์ขอแก้ไข ต่อมา พระครูธรรมสารพินิจ เจ้าอาวาสวัดโนนชัยวนาราม ได้มีลิขิตลงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นในกรณีเดียวกันอีก จังหวัดขอนแก่นจึงได้แจ้งให้ประสานงานกับศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่นเพื่อพิจารณาดำเนินการ แต่ปรากฏว่าไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ จังหวัดขอนแก่นได้ตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดแล้วพอสรุปได้ในขั้นต้นว่า การดำเนินการออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ ๓๗ ไร่ ๓ งาน ๗๑.๑ ตารางวา ให้แก่ วัดโนนชัยวราราม (ร้าง) สืบเนื่องจากหลักฐานหนังสือ ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๒ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ยื่นคำขอ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการจัดการศาสนสมบัติกลาง ตามอำนาจหน้าที่ดูแลรักษา ตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ นั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขณะทำการรังวัดไต่สวนเพื่อออกโฉนดที่ดินถูกต้องแล้ว แต่เนื่องจากวัดโนนชัยวนารามได้มีลิขิตโต้แย้งว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม ไม่ใช่ที่ดินวัดร้าง การที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอออกโฉนดที่ดินเป็นที่ศาสน-สมบัติกลาง เป็นการไม่ถูกต้อง ขอให้แก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งกรณีการแก้ไขใด ๆ ตามที่วัด-โนนชัยวนารามแจ้งนั้น อาจกระทบต่อการจัดการศาสนสมบัติกลางที่อยู่ในอำนาจการดูแลรักษาของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ จึงขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบและรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ จากพยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคลแล้ว โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ ระวาง ๕๕๔๑ ๗๐๒๐ - ๑๑ เลขที่ดิน ๑ หน้าสำรวจ ๒๒๒๙๗ ตำบลในเมือง (ศิลาเดิม) อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ ๓๗ ไร่ ๓ งาน ๗๑.๑ ตารางวา กรรมสิทธิ์เป็นของวัดโนนชัยวราราม (ร้าง) ซึ่งหลักฐานทั่วไปที่นำไปออกโฉนดดังกล่าวคือ แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) - ๓ - เลขที่ ๑๒ ซึ่งระบุเป็นที่ดินวัด โดยมีผู้ศรัทธาบริจาคให้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เนื้อที่ประมาณ ๓๕ ไร่ โดยมี พระอำนวย สุมงฺคโล ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโนนชัยวนารามในขณะนั้น แจ้งเป็นเจ้าของที่ดิน ปัญหามีว่า การออกโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นการออกโดยผิดพลาดคลาดเคลื่อนหรือไม่ จากบันทึกถ้อยคำพยานบุคคลคือเจ้าอาวาสวัดโนนชัยวนาราม และเจ้าคณะปกครองสงฆ์จังหวัดขอนแก่น (ธรรมยุต) ต่างยืนยันว่า วัดโนนชัยวนาราม กับ วัดโนนชัยวราราม (ร้าง) เป็นวัดเดียวกัน เนื่องจากบ้านโนนชัยมีเพียงวัดโนนชัยวนารามเพียงวัดเดียว และได้มีการย้ายกลับไปกลับมาระหว่างที่ดิน ๒ แปลง คือ ที่ดินตามหนังสือ ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๒ และตามหนังสือ ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๓ นอกจากนี้ นายสีบู ศรีโนนยาง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑๒ ตำบลในเมือง (ศิลาเดิม) อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น และพยานบุคคลอีก ๒ - ๓ คน ยังได้ให้การยืนยันว่าวัดโนนชัยวนารามได้มีการย้ายวัดจริง ประกอบกับหลักฐานการออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ ของวัดโนนชัยวราราม (ร้าง) คือ ออกตามหลักฐานหนังสือ ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๒ ซึ่งวัดโนนชัยวนารามเป็นเจ้าของ โดย พระอำนวย สุมงฺคโล เจ้าอาวาสวัดโนนชัยวนาราม แจ้งเป็นเจ้าของที่ดิน นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ มหาวิทยาลัย-มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน ต้องการใช้ที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ เนื้อที่ ๓๗ ไร่ ๓ งาน ๑๗.๑ ตารางวา เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการก่อสร้างมหาวิทยาลัย จึงได้มาขออนุญาตจากเจ้าอาวาสวัดโนนชัยวนาราม และเจ้าคณะปกครองสงฆ์จังหวัดขอนแก่น (ธรรมยุต) ซึ่งได้รับความเห็นชอบให้สร้างและได้มีการเรียนการสอนจนถึงปัจจุบัน จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เชื่อได้ว่า วัดโนนชัยวราราม (ร้าง) และวัดโนนชัย-วนารามเป็นวัดเดียวกัน ที่ดินแปลงที่ออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ เป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม การที่ทางราชการนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินของวัดโนนชัยวราราม (ร้าง) จึงเป็นการขึ้นทะเบียนทับที่ธรณีสงฆ์ของวัดโนนชัยวนาราม ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามความเห็นของกลุ่มนิติการ กองกลาง สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติ ตามบันทึกลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๗ /ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ - ๔ - ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรแจ้งสำนักงานที่ดินจังหวัด-ขอนแก่นแก้ไขหลักฐานทางทะเบียนที่ดินให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง โดยเปลี่ยนชื่อผู้ถือ- ครอบครองสิทธิที่ดินจาก วัดโนนชัยวราราม (ร้าง) ในโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๓๓๘ เป็นชื่อ วัดโนนชัยวนาราม ผู้ถือครองสิทธิที่ดินแทน และคืนที่ดินให้แก่วัดโนนชัยวนาราม และเพิกถอนรายการที่ดิน วัดโนนชัยวราราม (ร้าง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ออกจากทะเบียนที่ดินวัดร้างในทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างจังหวัดขอนแก่นต่อไป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบ-ประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) พิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๔๙ เมื่อ วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๔๙ ที่ประชุมมีมติควรให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการพิจารณางบประมาณ-ศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) เสนอ จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการต่อไป (นางจุฬารัตน์ บุณยากร) ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF00992551_00061.pdf (196.86 kb)
จำนวนเข้าดู : 1618
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00