มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ 10/2551
มติที่ 225/2551
เรื่อง วัดประดู่ทรงธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติม
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีหนังสือ ที่ อย ๐๐๓๐/๘๖๐๓ ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ แจ้งว่า ตามมติมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๓๐/๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๘ อนุมัติให้กันเขตจัดประโยชน์ที่ตั้งวัดบางส่วนของวัดประดู่ทรงธรรม ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โฉนดที่ดินเลขที่ ๘๕๐๘ แบ่งออกเป็น ๓ แปลง คือ แปลงที่ ๑ เป็นบริเวณที่พักอาศัย เนื้อที่ ๔๐ ไร่ ๒ งาน ๙๙ ตารางวา ซึ่งทางวัด ให้ประชาชนเช่าอยู่อาศัยเป็นเวลาประมาณ ๓๐ ปีแล้ว เห็นควรจัดประโยชน์ได้ เนื่องจากแยกออกจากวัดอย่างชัดเจนโดยมีถนนกั้นกลางระหว่างวัดกับบริเวณดังกล่าว แปลงที่ ๒ เทศบาลเมืองอโยธยา ขอเช่าเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๓ งาน ๗๔ ตารางวา เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานนั้น ปรากฏว่า เทศบาลเมืองอโยธยาได้ทำการก่อสร้างไปก่อนแล้วบางส่วน บนพื้นที่ที่จะขอกันเขตจัดประโยชน์อยู่บริเวณด้านข้างของวัด ตามมติมหาเถรสมาคมให้สำนักงาน-พระพุทธศาสนาแห่งชาติสำรวจพื้นที่อีกครั้ง พร้อมทั้งกำหนดตำแหน่งอาคารสำนักงานตลอดจนทำการปรับแนวเขตที่ขอกันเขตจัดประโยชน์ดังกล่าวใหม่ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับความจำเป็นการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยปรับลดเนื้อที่ที่ขอกันเขตจัดประโยชน์ จากเดิม ๑๔ ไร่ ๓ งาน ๗๔ ตารางวา เป็น ๖ ไร่ ๓ งาน ๒๙ ตารางวา แปลงที่ ๓ เป็นที่ว่างเปล่าอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัด (ติดต่อในแนวเดียวกับที่ดินที่เทศบาลขอเช่าเพิ่มเติม) มีเนื้อที่ ๖ไร่ ๓ งาน ๘๖ ตารางวา ซึ่งทางวัดมีความประสงค์จะขอกันเขตจัดประโยชน์ให้เอกชนเช่าด้วยนั้น ยังไม่สมควรให้กันเขตจัดประโยชน์โดยควรเก็บไว้เพื่อการพัฒนาวัดต่อไปในอนาคต บัดนี้ วัดประดู่ทรงธรรมขออนุมัติการกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติมโดยได้รับความ-เห็นชอบจากเจ้าคณะปกครองสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามลำดับแล้ว ตามลิขิตวัด ที่ ๕/๒๕๕๐ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ดังนี้ แปลงที่ ๒ ตามมติมหาเถรสมาคมให้ปรับลดเนื้อที่ที่ขอกันเขตจัดประโยชน์จากเดิม ๑๔ ไร่ ๓ งาน ๗๔ ตารางวา เป็น ๖ ไร่ ๓ งาน ๒๙ ตารางวา ขอกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเพื่อให้เทศบาลเมืองอโยธยาเช่าเพิ่มเติมบริเวณที่ปรับลดเนื้อที่ ๘ ไร่ ๔๕ ตารางวา เพื่อก่อสร้างอาคารเก็บพัสดุครุภัณฑ์ อาคารโรงเก็บยานพาหนะ อาคารบ้านพัก พนักงานเทศบาล ตลอดจนดำเนินกิจการอื่นอันเป็นอำนาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ต่อทางราชการและประชาชนโดยส่วนรวม จึงขอเช่าพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม แปลงที่ ๓ เนื้อที่ ๖ ไร่ ๓ งาน ๘๖ ตารางวา ขอกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อให้ บริษัท หย่วนเฮงลี่ จำกัด เช่าเพื่อปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยให้คนงานบริษัท โดย ทำสัญญาเช่าปีต่อปี เนื่องจากได้เช่าและเสียค่าเช่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๓ ทำให้ได้รับผลกระทบในการเช่าที่ดินเดิมซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาที่ดินแปลงนี้ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งบริษัทฯ ได้ช่วยพัฒนาที่ดินของวัดให้ดูสวยงามโดยการถมดินในบ่อ เป็นจำนวนมาก จึงมีความประสงค์ขอกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติมส่วนที่เทศบาลขอเช่า และส่วนที่บริษัทฯ เช่าอยู่ รวมเนื้อที่ขอกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติม เป็นจำนวนเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๓๑ ตารางวา เมื่อกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติมแล้ววัดจะมีเนื้อที่เหลืออยู่ ๓๐ ไร่ ๙๑ ตารางวา ปัจจุบันมีเสนาสนะครบถ้วนแล้ว เพียงพอที่จะทำการพัฒนาต่อไปในภายภาคหน้า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ-ศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) พิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๑๓/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๐ ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วขอรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมให้ถอนเรื่องนี้กลับไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยกองพุทธศาสนสถาน ฝ่ายออกแบบและ ก่อสร้าง ได้ไปตรวจสอบสถานที่จริงแล้วปรากฏ ดังนี้ ๑. ที่ดินส่วนที่เทศบาลอโยธยาขอเช่า (เพิ่มเติม) และที่ดินส่วนที่ บริษัท หย่วนเฮงลี่ จำกัด ขอเช่าเพื่อปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยชั่วคราวให้คนงานบริษัทฯ นั้น ได้แบ่งแยกออกจากที่ดินที่ตั้งวัดอย่างชัดเจน โดยมีถนน ค.ส.ล. กว้าง ๘ เมตร ยาว ๓๓๖ เมตร ตัดผ่านที่ดินส่วนนี้ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือด้านหลังของวัดประดู่ทรงธรรม ๒. ที่ดินส่วนที่เทศบาลอโยธยาขอเช่า (เพิ่มเติม) ได้ก่อสร้างกำแพงก่ออิฐสูงประมาณ ๑ เมตร กันที่ดินในส่วนนี้ไว้ก่อนแล้ว (จากการสอบถามนายประทีป ฉากภาพ รองปลัดเทศบาล-เมืองอโยธยา) เนื่องจากสำนักงานเทศบาลเมืองอโยธยาได้ทำไว้เพื่อนำรถยนต์ของสำนักงานมาจอด ได้ย้ายประชาชนกลุ่มที่บุกรุกเขตโบราณสถานในเขตเมืองอโยธยาให้มาปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ด้านนี้ ๓. หากมีการกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติมทั้ง ๒ รายการนี้แล้ว วัดประดู่ทรงธรรมจะมีเนื้อที่เหลืออยู่อีกประมาณ ๓๐ ไร่ ๙๑ ตารางวา ปัจจุบันได้มีอาคารเสนาสนะของวัดครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และยังมีพื้นที่ว่างที่ยังเหลือจะทำการพัฒนาวัดต่อไปในภายภาคหน้าได้อีกส่วนหนึ่ง ๔. การก่อสร้างอาคารของเทศบาลเมืองอโยธยา และอาคารที่พักอาศัยของ บริษัท หย่วนเฮงลี่ จำกัด จะไม่บดบังทัศนียภาพของวัดประดู่ทรงธรรมแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ด้านหลังของวัดและมีถนน ค.ส.ล. แบ่งแยกออกจากที่ดินที่ตั้งวัดอย่างชัดเจน ๕. เทศบางเมืองอโยธยาและบริษัท หย่วนเฮงลี่ จำกัด ได้มีศรัทธาช่วยเหลือ วัดประดู่ทรงธรรม โดยทำการพัฒนาปรับปรุงอาคารเสนาสนะและบริเวณที่ดินของวัดมาโดยตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นต้นมา เห็นควรนำเสนอให้ดำเนินการกันเขตจัดประโยชน์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ-ศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) พิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๑๖/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๐ ที่ประชุมมีมติให้ถอนเรื่องออกไปก่อน และมอบกองพุทธศาสนสถานไปดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยกองพุทธศาสนสถานได้ประสานงาน สำนักงานเทศบาลเมืองอโยธยาจัดทำเอกสารเพิ่มเติม พร้อมนี้ได้ทำหนังสือถึงสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ขอความอนุเคราะห์ให้ตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้างเทศบาลเมืองอโยธยาในพื้นที่ดินของวัดประดู่ทรงธรรม จะบดบังทัศนียภาพของโบราณสถานที่อยู่ใกล้เคียงหรือไม่ บัดนี้ สำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ได้มีหนังสือ ที่ วธ ๐๔๑๗/๑๕๒๒ ลงวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๑ แจ้งว่า ตามที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอความอนุเคราะห์สำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างอาคารของเทศบาลเมืองอโยธยาในพื้นที่ดินของวัดประดู่ทรงธรรม ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าจะบดบังทัศนียภาพของโบราณสถานที่อยู่ใกล้เคียงหรือไม่อย่างไร นั้น สำนักงานศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ได้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากเขตโบราณสถาน ไม่กระทบต่อทัศนีภาพของโบราณสถาน ที่ตั้งอยู่โดยรอบ เทศบาลเมืองอโยธยาได้มีหนังสือ ที่ อย ๗๖๐๑/๓๑ ลงวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๑ ชี้แจงว่า กรณีขอเช่าที่ดินเพิ่มเติมเพื่อใช้ประโยชน์ต่อทางราชการและประชาชนโดยส่วนรวม โดยจะไม่ใช้ที่ดินที่ขอเช่าเพิ่มเติมเป็นที่จอดยานพาหนะหรือเป็นที่ทิ้งขยะแต่อย่างใด ปัจจุบันมีถนน ค.ส.ล. กว้าง ๘ เมตร ยาว ๓๓๖ เมตร กันเขตเสนาสนะที่ตั้งวัด แบ่งแยกแนวเขตที่ขอกันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติม กับเขตที่ตั้งวัดอย่างชัดเจน แนวเขตไม่ติดต่อกัน มีถนนล้อมรอบแนวเขต ที่ตั้งวัด ๓ ด้าน และวัดมีโครงการจะจัดทำกำแพงล้อมรอบเสนาสนะและที่ตั้งวัดทั้ง ๓ ด้าน ส่วนอีกด้านหนึ่ง เทศบาลได้ทำกำแพงกั้นแนวเขตไว้แล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นควรนำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบ-ประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) พิจารณาให้ความเห็นชอบให้วัดประดู่ทรงธรรม กันเขตจัดประโยชน์เพิ่มเติม ซึ่งเป็นบริเวณที่เคยจัดประโยชน์อยู่เดิมเนื้อที่จำนวน ๑๕ ไร่ ๓๑ ตารางวา ซึ่งเมื่อกันเขตจัดประโยชน์แล้ว วัดประดู่ทรงธรรมจะมีเนื้อที่ตั้งวัดจำนวน ๓๐ ไร่ ๙๑ ตารางวา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ-ศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) พิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๑ ที่ประชุมมีมติเห็นควรอนุมัติให้กันเขตจัดประโยชน์ตามเสนอ และให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการพิจารณางบประมาณ- ศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) เสนอ
เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เอกสารประกอบ 1 : CCF01792551_00225.pdf (1.31 mb)
จำนวนเข้าดู : 740
ปรับปรุงล่าสุด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00
ข้อมูลเมื่อ : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 08:00:00